กรุงเทพ--1 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
ตามคำเชิญของ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ฯพณฯ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2548
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายมิคาอิล ฟราดคอฟ นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และได้หารือกับ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย รวมทั้งได้แยกพบกับ ฯพณฯ นายอิกอร์ อิวานอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และกับ ฯพณฯ นายเยฟเกนี พรีมาคอฟ ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมสหพันธรัฐรัสเซีย นอกจากนั้น ฯพณฯ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล ยังได้วางพวงมาลา ณ สุสานทหารนิรนามด้าย
วัตถุประสงค์หลักของการเยือนครั้งนี้ คือการเข้าร่วมการหารือประจำปีระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสองฝ่าย ซึ่งได้เริ่มหารือกันครั้งแรกในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อเดือนธันวาคม 2547
การหารือเป็นไปในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร โดยมุ่งเรื่องการนำข้อริเริ่มที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของ ฯพณฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อเดือนตุลาคม 2546 และการเยือนรัสเซียในลักษณะ working visit ของ ฯพณฯ ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ไปปฏิบัติ เป็นที่สังเกตว่า การที่ ฯพณฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน กับ ฯพณฯ ดร. ทักษิณ ชินวัตร ได้พบปะกันประจำในระหว่างการประชุมระหว่างประเทศครั้งต่างๆ ครั้งล่าสุด ในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์หลายครั้งนั้น ได้เอื้ออำนวยต่อการประสานงานที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และช่วยส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสองมากขึ้น
ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบถึงพลวัตรเชิงบวกของความร่วมมือไทย-รัสเซีย และแนวโน้มที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือดังกล่าวต่อไป และได้หารือกันเกี่ยวกับเนื้อหาของแผนปฏิบัติการร่วมไทย-รัสเซีย โดยมุ่งหวังที่จะสรุปผลและตกลงกันได้ในอนาคตอันใกล้นี้ แผนปฏิบัติการร่วมนี้ จะเป็นแผนการดำเนินการเพื่อเร่งรัดผลักดันความร่วมมือในสาขาเฉพาะด้านสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีการกำหนดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
ทั้งสองฝ่ายแสดงความพอใจต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการค้าระหว่างกันโดยรับทราบว่า ในปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายน่าจะสามารถเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ ทั้งนี้ ในปี 2547 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงลู่ทางการทำการค้าโดยตรง และการกระจายการค้าไปสู่สินค้าชนิดใหม่ๆ ด้วย
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาการบินและการขนส่ง ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียจะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งของกรุงเทพฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝ่ายไทยได้ย้ำคำเชิญชวนให้บริษัทรัสเซียมาร่วมการประมูลที่จะเปิดขึ้นในปี 2549 เพื่อการก่อสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินในกรุงเทพฯ
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการวิจัยและการใช้ประโยชน์ทางอวกาศภายนอกในทางสันติระหว่างรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และได้แสดงความหวังว่า จะสามารถลงนามความตกลงดังกล่าวได้โดยเร็ว รัสเซียได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์และการศึกษาวิจัยและฝึกอบรมด้านอวกาศ รวมถึงความเป็นไปได้ในการฝึกอบรมนักบินอวกาศชาวไทย ซึ่งจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ของไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้สูงสุดในยุคสมัยใหม่แห่งโลกาภิวัฒน์
โดยคำนึงถึงสถานการณ์น้ำมันในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า การที่รัสเซียจะเป็นแหล่งพลังงานให้ไทย รวมทั้งการจัดตั้งแหล่งเก็บสำรองพลังงานในไทย เป็นอีกสาขาความร่วมมือหนึ่งที่น่าจะมีผลสำเร็จได้ ในเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบด้วยความพอใจว่า บริษัท Gazprom และธนาคารVneshkonombank และบริษัท ป.ต.ท. จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามความตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันที่เมืองปูซาน เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2548 โดยมีประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นสักขีพยาน ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความหวังว่า ประเทศทั้งสองจะมีจุดเน้นทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการดำเนินความร่วมมือด้านพลังงานภายใต้แผนปฏิบัติการร่วม
ทั้งสองฝ่ายได้ระลึกถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสอง ภายหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยในภาคใต้ของไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2547 และได้ตกลงกันที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติจากธรรมชาติ
การหารือระหว่างสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซียและสภาความมั่นคงแห่งชาติของราชอาณาจักรไทย ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 เป็นสาขาความร่วมมือทวิภาคีในทิศทางใหม่ ทั้งนี้ รัสเซียและไทยย้ำถึงเจตนารมณ์ของตนที่จะมุ่งมั่นต่อต้านการก่อการร้ายสากล อาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ายาเสพติด ตามที่ได้สะท้อนอยู่ในความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-รัสเซีย ด้านการหารือเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง ที่สภาความมั่นคงทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้
ทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วยความพอใจเกี่ยวกับการเพิ่มการแลกเปลี่ยนด้านทวิภาคีในทุกระดับ และเห็นพ้องกันที่จะเร่งรัดการเจรจายกร่างกรรมสารที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกในการยกเว้นการตรวจลงตราให้พลเมืองทั้งสองประเทศ และการจัดทำการค้าต่างตอบแทน เพื่อที่จะสามารถมีการลงนามกรรมสารเหล่านี้ได้ในระหว่างการประชุมผู้นำ ASEAN-Russia Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 14 ธันวาคม 2548
ทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วยความพอใจถึงมิตรสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างกันในระดับประชาชนต่อประชาชน ในเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสำคัญของพิธีสารเกี่ยวกับความร่วมมือทางวัฒนธรรม ปี 2548-2549 รวมทั้งการแลกเปลี่ยนการจัด “วันวัฒนธรรมไทย” และ “วันวัฒนธรรมรัสเซีย”
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันด้วยว่า จะจัดพิมพ์ชุดเอกสารสำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย อีก 1 ชุด เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 110 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง ที่จะมีขึ้นในปี 2550
ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจที่จะมีการจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ ในเดือนมกราคม 2549 โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมนี้ จะเอื้ออำนวยต่อความก้าวหน้าต่อไปในโครงการความร่วมมือเฉพาะด้านต่างๆ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความกังวลเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศที่น่าสนใจ และมีการตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศทั้งสองมีแนวคิดคล้ายกันในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องสถานการณ์ในตะวันออกกลาง อิรัก และคาบสมุทรเกาหลี ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงกันที่จะเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในระดับระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและความเป็นประชาธิปไตยในสังคมโลก โดยยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติ และบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งเลขาธิการองค์การสหประชาตินั้น ฝ่ายรัสเซียได้ยืนยันสนับสนุนหลักการว่า วาระนี้เป็นวาระของเอเชีย และรับทราบว่าอาเซียนได้รับรองให้ ฯพณฯ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครของอาเซียน
อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และวิถีทางที่จะขยายและส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ASEAN และรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัสเซียได้แสดงความขอบคุณไทยที่ได้สนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกของรัสเซียต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เล็งเห็นแนวโน้มที่จะร่วมมือกันต่อไปในเวทีระหว่างประเทศ เช่น APEC ARF และ CICA ในเรื่องนี้ รัสเซียได้ขอบคุณไทยที่สนับสนุนให้รัสเซียได้เข้าเป็นสมาชิกรายล่าสุดของ ACD และพร้อมที่จะเข้าร่วมในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ACD ครั้งที่ 5 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในช่วงเดือนเมษายน/พฤษภาคม 2549 และฝ่ายไทยได้บรรยายสรุปให้ฝ่ายรัสเซียทราบเกี่ยวกับความคิดริเริ่มล่าสุดของไทยในการจัดการประชุมรัฐมนตรีการคลัง ACD ที่ประเทศไทยในปีหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
ตามคำเชิญของ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ฯพณฯ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย เดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2548
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายมิคาอิล ฟราดคอฟ นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และได้หารือกับ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย รวมทั้งได้แยกพบกับ ฯพณฯ นายอิกอร์ อิวานอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และกับ ฯพณฯ นายเยฟเกนี พรีมาคอฟ ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมสหพันธรัฐรัสเซีย นอกจากนั้น ฯพณฯ ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล ยังได้วางพวงมาลา ณ สุสานทหารนิรนามด้าย
วัตถุประสงค์หลักของการเยือนครั้งนี้ คือการเข้าร่วมการหารือประจำปีระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสองฝ่าย ซึ่งได้เริ่มหารือกันครั้งแรกในระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อเดือนธันวาคม 2547
การหารือเป็นไปในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร โดยมุ่งเรื่องการนำข้อริเริ่มที่ได้ตกลงกันไว้ระหว่างการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของ ฯพณฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อเดือนตุลาคม 2546 และการเยือนรัสเซียในลักษณะ working visit ของ ฯพณฯ ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ไปปฏิบัติ เป็นที่สังเกตว่า การที่ ฯพณฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน กับ ฯพณฯ ดร. ทักษิณ ชินวัตร ได้พบปะกันประจำในระหว่างการประชุมระหว่างประเทศครั้งต่างๆ ครั้งล่าสุด ในระหว่างการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปคที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์หลายครั้งนั้น ได้เอื้ออำนวยต่อการประสานงานที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และช่วยส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสองมากขึ้น
ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบถึงพลวัตรเชิงบวกของความร่วมมือไทย-รัสเซีย และแนวโน้มที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือดังกล่าวต่อไป และได้หารือกันเกี่ยวกับเนื้อหาของแผนปฏิบัติการร่วมไทย-รัสเซีย โดยมุ่งหวังที่จะสรุปผลและตกลงกันได้ในอนาคตอันใกล้นี้ แผนปฏิบัติการร่วมนี้ จะเป็นแผนการดำเนินการเพื่อเร่งรัดผลักดันความร่วมมือในสาขาเฉพาะด้านสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีการกำหนดผลที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
ทั้งสองฝ่ายแสดงความพอใจต่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการค้าระหว่างกันโดยรับทราบว่า ในปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายน่าจะสามารถเพิ่มขึ้นถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ ทั้งนี้ ในปี 2547 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงลู่ทางการทำการค้าโดยตรง และการกระจายการค้าไปสู่สินค้าชนิดใหม่ๆ ด้วย
ทั้งสองฝ่ายตกลงกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาการบินและการขนส่ง ซึ่งรวมถึงการที่รัสเซียจะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งของกรุงเทพฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝ่ายไทยได้ย้ำคำเชิญชวนให้บริษัทรัสเซียมาร่วมการประมูลที่จะเปิดขึ้นในปี 2549 เพื่อการก่อสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินในกรุงเทพฯ
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการวิจัยและการใช้ประโยชน์ทางอวกาศภายนอกในทางสันติระหว่างรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และได้แสดงความหวังว่า จะสามารถลงนามความตกลงดังกล่าวได้โดยเร็ว รัสเซียได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์และการศึกษาวิจัยและฝึกอบรมด้านอวกาศ รวมถึงความเป็นไปได้ในการฝึกอบรมนักบินอวกาศชาวไทย ซึ่งจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ของไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้สูงสุดในยุคสมัยใหม่แห่งโลกาภิวัฒน์
โดยคำนึงถึงสถานการณ์น้ำมันในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า การที่รัสเซียจะเป็นแหล่งพลังงานให้ไทย รวมทั้งการจัดตั้งแหล่งเก็บสำรองพลังงานในไทย เป็นอีกสาขาความร่วมมือหนึ่งที่น่าจะมีผลสำเร็จได้ ในเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายได้รับทราบด้วยความพอใจว่า บริษัท Gazprom และธนาคารVneshkonombank และบริษัท ป.ต.ท. จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามความตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันที่เมืองปูซาน เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2548 โดยมีประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นสักขีพยาน ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความหวังว่า ประเทศทั้งสองจะมีจุดเน้นทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการดำเนินความร่วมมือด้านพลังงานภายใต้แผนปฏิบัติการร่วม
ทั้งสองฝ่ายได้ระลึกถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสอง ภายหลังเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยในภาคใต้ของไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2547 และได้ตกลงกันที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติจากธรรมชาติ
การหารือระหว่างสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซียและสภาความมั่นคงแห่งชาติของราชอาณาจักรไทย ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 เป็นสาขาความร่วมมือทวิภาคีในทิศทางใหม่ ทั้งนี้ รัสเซียและไทยย้ำถึงเจตนารมณ์ของตนที่จะมุ่งมั่นต่อต้านการก่อการร้ายสากล อาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ายาเสพติด ตามที่ได้สะท้อนอยู่ในความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมไทย-รัสเซีย ด้านการหารือเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง ที่สภาความมั่นคงทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้
ทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วยความพอใจเกี่ยวกับการเพิ่มการแลกเปลี่ยนด้านทวิภาคีในทุกระดับ และเห็นพ้องกันที่จะเร่งรัดการเจรจายกร่างกรรมสารที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกในการยกเว้นการตรวจลงตราให้พลเมืองทั้งสองประเทศ และการจัดทำการค้าต่างตอบแทน เพื่อที่จะสามารถมีการลงนามกรรมสารเหล่านี้ได้ในระหว่างการประชุมผู้นำ ASEAN-Russia Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 14 ธันวาคม 2548
ทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วยความพอใจถึงมิตรสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างกันในระดับประชาชนต่อประชาชน ในเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสำคัญของพิธีสารเกี่ยวกับความร่วมมือทางวัฒนธรรม ปี 2548-2549 รวมทั้งการแลกเปลี่ยนการจัด “วันวัฒนธรรมไทย” และ “วันวัฒนธรรมรัสเซีย”
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันด้วยว่า จะจัดพิมพ์ชุดเอกสารสำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย อีก 1 ชุด เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 110 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศทั้งสอง ที่จะมีขึ้นในปี 2550
ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความพอใจที่จะมีการจัดประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ ในเดือนมกราคม 2549 โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมนี้ จะเอื้ออำนวยต่อความก้าวหน้าต่อไปในโครงการความร่วมมือเฉพาะด้านต่างๆ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความกังวลเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศที่น่าสนใจ และมีการตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศทั้งสองมีแนวคิดคล้ายกันในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องสถานการณ์ในตะวันออกกลาง อิรัก และคาบสมุทรเกาหลี ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงกันที่จะเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในระดับระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและความเป็นประชาธิปไตยในสังคมโลก โดยยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติ และบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งเลขาธิการองค์การสหประชาตินั้น ฝ่ายรัสเซียได้ยืนยันสนับสนุนหลักการว่า วาระนี้เป็นวาระของเอเชีย และรับทราบว่าอาเซียนได้รับรองให้ ฯพณฯ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครของอาเซียน
อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และวิถีทางที่จะขยายและส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ASEAN และรัสเซีย เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัสเซียได้แสดงความขอบคุณไทยที่ได้สนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกของรัสเซียต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เล็งเห็นแนวโน้มที่จะร่วมมือกันต่อไปในเวทีระหว่างประเทศ เช่น APEC ARF และ CICA ในเรื่องนี้ รัสเซียได้ขอบคุณไทยที่สนับสนุนให้รัสเซียได้เข้าเป็นสมาชิกรายล่าสุดของ ACD และพร้อมที่จะเข้าร่วมในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ACD ครั้งที่ 5 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในช่วงเดือนเมษายน/พฤษภาคม 2549 และฝ่ายไทยได้บรรยายสรุปให้ฝ่ายรัสเซียทราบเกี่ยวกับความคิดริเริ่มล่าสุดของไทยในการจัดการประชุมรัฐมนตรีการคลัง ACD ที่ประเทศไทยในปีหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-