พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน ศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 63/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2549 ในช่วงวันที่ 26-30 พ.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. จะปรากฎร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลางทำให้ภาคกลางด้านตะวันตกและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 26-29 พ.ค.ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรืออาศัยอยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากในลุ่มน้ำยม จังหวัดสุโขทัย ที่ อำเภอศรีสำโรงยังคงมีน้ำล้นตลิ่ง และที่อำเภอกงไกรลาส ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และลุ่มน้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่อำเภอพระแสง ยังคงล้นตลิ่งและมีแนวโน้มสูงขึ้น ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-25 กม./ชม. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 50-70% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนบนของภาคในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-25 กม./ชม.พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วม หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากขาดอากาศและตายได้ รวมทั้งควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะโคและกระบือ เพราะอาจป่วยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้ ตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคส่วนมากในช่วงวันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคส่วนมากในช่วงวันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-30 กม./ชม. สภาพอากาศที่ชุ่มชื้นและพื้นดินเปียกแฉะ อาจทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อราระบาดในพืชไร่และพืชผัก เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบพืชต้นใดเป็นโรคควรถอนทิ้งและนำไปเผาทำลาย กลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งทางตะวันตกของภาค ส่วนมากในช่วงวันที่ 31 พ.ค — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-30 กม./ชม. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งทางตะวันตกของภาค ส่วนมากในช่วงวันที่ 31 พ.ค — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 10-30 กม./ชม. ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควร ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรคลุกเมล็ดพันธุ์พืชด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อราก่อนปลูกพืช ตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. ช่วงนี้สภาพอากาศชุ่มชื้น เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ รวมทั้งดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หากพบสัตว์ป่วยเป็นโรคควรแยกออก จากกลุ่ม ทำการรักษา ใต้ ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนกลางของภาคในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 26-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปกับมีฝน ตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนกลางของภาคในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 26-30 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ และในช่วงวันที่ 31 พ.ค. — 1 มิ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปกับมีฝน ตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ 15-35 กม./ชม. จะมีฝนตกชุกหนาแน่นส่วนมากทางฝั่งตะวันตก ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งบริเวณแม่น้ำตาปี เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำหรือคันดินเพื่อป้องกันน้ำท่วม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-สส-