พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน 2549

ข่าวทั่วไป Friday April 7, 2006 15:00 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน ศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 42/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 7-13 เมษายน 2549
ในวันที่ 7-9 เม.ย. มีบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดแนวพัดสอบเข้าหากันของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนบริเวณดังกล่าว โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนลดลงและอากาศร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกตอนบนมีอากาศร้อน ส่วนภาคเหนือและภาคกลางมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ บริเวณประเทศไทยตอนบน ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายเนื่องจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกด้วย และในช่วงที่อากาศร้อนจัด เกษตรกรควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้อากาศระบายสะดวก รวมทั้งควรจัดหาน้ำดื่มให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงกับลูกเห็บตกบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงกับลูกเห็บตกบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ เนื่องจากระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอาคารบ้านเรือน และผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ควรเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย
กลาง
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20-30 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อนและมีแสงแดดจัด เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรทำร่มเงาพรางแสง เพื่อให้สัตว์หลบเข้าพัก นอกจากนี้ผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ
ตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมี ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และมี ลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ สำหรับบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรเก็บกักสำรองน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย ส่วนชาวสวนผลไม้ควรตรวจสอบและซ่อมแซมวัสดุที่ใช้ค้ำยันกิ่งและลำต้นให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรงด้วย
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 7-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 %ของพื้นที่
ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 7-10 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 %ของพื้นที่ ระยะนี้ทางตอนบน ของภาคมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่ปลูกโดยเฉพาะพืชผัก และคลุมโคนต้นด้วยวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นดิน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยชนิดต่างๆ ด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ