ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในรอบ 11 เดือนแรกปี 48 สำเร็จจำนวน 1,038 ล้านบาท ฝ่าย
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 48 ว่า มีการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จจำนวน 226 ราย มูลหนี้
1,038 ล้านบาท จากจำนวนลูกหนี้ที่เจรจาได้ข้อสรุปเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.ทั้งหมดจำนวน 571 ราย มูลหนี้
9,323 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่เจรจาได้สำเร็จ 226 รายนี้ เป็นลูกหนี้ที่เข้าโครงการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ของคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (คปน.) 194 ราย มูลหนี้ 767 ล้านบาท และลูกหนี้ที่ขอ
ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วสถาบันการเงินส่งกลับมาให้ คปน.เจรจา 32 ราย
มูลหนี้ 271 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, สยามรัฐ)
2. ก.คลังเร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษี โดยยึด 3 ปัจจัย รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
(สศค.) ในฐานะประธานคณะทำงานย่อยปรับปรุงโครงสร้างภาษี เปิดเผยว่า หลังจากที่ นรม.ประกาศปฏิรูประบบ
ภาษีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้นักลงทุนภาคเอกชนรับฟัง ทางสภาที่ปรึกษาธุรกิจได้
เรียก สศค.เพื่อสอบถามถึงแนวทางการปรับโครงสร้างภาษี ทั้งนี้ ทาง สศค.ได้ชี้แจงว่า ปัจจัยที่จะกำหนดกรอบ
โครงสร้างภาษีใหม่จะมีอยู่ 3 ประการหลัก ประกอบด้วย 1) ความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 2) กระแสการเปิดเสรีการค้า ซึ่งในอีก 10-15 ปีข้างหน้า อัตราภาษี
ศุลกากรนำเข้าจะลดลงจนเป็นร้อยละ 0 ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของกรมศุลกากรจนเป็นศูนย์ 3) เมื่อจำเป็น
ต้องปรับระบบภาษีตามเหตุผล 2 ข้อดังกล่าวแล้ว ก็ปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน
ไปพร้อม ๆ กันเลย ไม่ใช่เฉพาะปรับเพื่อชดเชยรายได้กรมศุลกากรเท่านั้น (ผู้จัดการรายวัน)
3. ก.คลังให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ลดหนี้เสียให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 ของสินเชื่อภายใน 3
ปี รายงานจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง จะร่วมลงนามในแผน
การแก้ไขปัญหาหนี้เสียกับ ก.คลัง หลังจากที่ รมว.คลังได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เร่งแก้ไขปัญหา
หนี้เสียภายในหน่วยงานให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 ของสินเชื่อภายใน 3 ปี แม้บางแห่งจะมีระดับหนี้เสียที่ต่ำกว่า
ร้อยละ 10 แล้ว แต่บางแห่งก็ยังอยู่ในระดับสูงจำนวนร้อยละ 20-30 ของสินเชื่อรวม ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงิน
เฉพาะกิจทุกแห่งอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเพื่อเสนอ ก.คลัง ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลง (กรุงเทพธุรกิจ, เด
ลินิวส์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 เทียบต่อปี รายงานจาก
โตเกียวเมื่อ 16 ม.ค.49 The Ministry of Finance เปิดเผยว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน พ.
ย.48 มีจำนวน 1.4182 ล้านล้านเยน (12.42 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 เมื่อเทียบกับเดือน
เดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1.51 ล้านล้านเยน ขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนหลังปรับฤดูกาลแล้ว ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงร้อยละ 6.2 ทั้งนี้
โดยยอดดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เทียบต่อปี เป็นจำนวน 703.6 พัน ล.เยน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ
14.2 และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 49 จะแข็งแกร่งขึ้น รายงานจากบ
รัสเซลส์เมื่อ 13 ม.ค.49 The European Commission เปิดเผยการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ใช้สกุลยูโร (ยูโรโซน) ว่าจะขยายร้อยละ 0.4-0.9 ในช่วงไตรมาสที่ 2
ของปี (เดือน เม.ย.-มิ.ย.) สูงกว่า 2 ไตรมาสก่อนหน้าซึ่งคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.4-0.8 และสอด
คล้องกับการคาดการณ์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลี (Ifo และ ISAE) ซึ่งคาด
ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวร้อยละ 0.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.4 ใน
ช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ จากการที่ EU’s statistics office ได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์ใน
ประเทศของยูโรโซน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 48 ว่าขยายตัวร้อยละ 0.6 หลังจากการขยายตัวร้อยละ 0.4 และ
0.3 ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า เป็นการยืนยันถึงการค่อยๆ ฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน และส่งผลให้บรรดา
นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า The European Central Bank (ECB) อาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบาย เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้ออันเกี่ยวเนื่องมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังจากได้ปรับ
เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.25 เมื่อ 1 ธ.ค.48 (รอยเตอร์)
3. ในปีนี้ ธ. กลางเกาหลีใต้มุ่งรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและป้องกันภาวะเงิน
เฟ้อ รายงานจากกรุงโซล เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 49 นาย Park Seung ผวก.ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การ
ดำเนินนโยบายทางการเงินของเกาหลีใต้ในปีนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อพร้อมกับที่ต้องสนับสนุนให้
เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้มีความเสี่ยงที่สำคัญคือการแข็งค่าของเงินวอน และราคา
น้ำมันที่สูงขึ้น นอกจากนั้น ธ.กลางยังต้องมีความรอบคอบในการบริหารจัดการปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบการเงิน
เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อในประเทศ จากการสูงขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เกาหลีใต้ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็น
ที่ 4 ในแถบเอเซีย จะสามารถประสบผลสำเร็จในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 5.0 ในปีนี้ ด้วยการฟื้น
ตัวของความต้องการในประเทศและการส่งอออที่ขยายตัวอย่างมาก ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวออกมาภายหลังการประชุม
นโยบายการเงินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม ตามที่มี
การคาดการณ์กันไว้ อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ยังคงคาดการณ์ว่า ธ.กลางจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อีก 1 หรือ 2 ครั้ง ในปีนี้ ภายหลังจากที่ปรับเพิ่มมาแล้ว 2 ครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4/48 (รอยเตอร์)
4. คาดว่าในปีนี้จีนจะเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 — 20 รายงานจากเชียงไฮ้ เมื่อวันที่ 16
ม.ค. 49 เจ้าหน้าที่ ก. การค้าของจีน เปิดเผยว่า ในปีนี้การค้าระหว่างประเทศของจีนขยายตัวอย่างมากจากอุป
สงค์ในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด สรอ. ที่อุปสงค์ผู้บริโภคขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้จีนจะ
เกินดุลการค้าสูงถึงระดับ 1.63 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 15 — 20 อย่างไรก็ตามมีบางความเห็นที่
ไม่สอดคล้องกันว่าในปีนี้ การเกินขยายตัวทางการค้าจะอยู่ที่ร้อยละ 15 แต่การเกินดุลไม่น่าจะสูงกว่าระดับในปี
48 ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว การค้าระหว่างประเทศของจีนสูงถึง 1.42 ล้านล้านดอลลาร์สรอ. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.2
เมื่อปีก่อนหน้า และเกินดุลการค้าอยู่ที่ 102 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งสรอ. เห็นว่าการเกินดุลการค้าจำนวนมาก
ของจีนส่งผลต่อความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16 ม.ค. 49 13 ม.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.535 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.3591/39.6389 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.1516 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 755.72/ 29.57 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,300/10,400 10,150/10,250 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.19 57.62 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 11 ม.ค. 49 26.84*/24.29* 26.84*/24.29* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในรอบ 11 เดือนแรกปี 48 สำเร็จจำนวน 1,038 ล้านบาท ฝ่าย
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 48 ว่า มีการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จจำนวน 226 ราย มูลหนี้
1,038 ล้านบาท จากจำนวนลูกหนี้ที่เจรจาได้ข้อสรุปเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.ทั้งหมดจำนวน 571 ราย มูลหนี้
9,323 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่เจรจาได้สำเร็จ 226 รายนี้ เป็นลูกหนี้ที่เข้าโครงการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ของคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (คปน.) 194 ราย มูลหนี้ 767 ล้านบาท และลูกหนี้ที่ขอ
ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วสถาบันการเงินส่งกลับมาให้ คปน.เจรจา 32 ราย
มูลหนี้ 271 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, สยามรัฐ)
2. ก.คลังเร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษี โดยยึด 3 ปัจจัย รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
(สศค.) ในฐานะประธานคณะทำงานย่อยปรับปรุงโครงสร้างภาษี เปิดเผยว่า หลังจากที่ นรม.ประกาศปฏิรูประบบ
ภาษีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้นักลงทุนภาคเอกชนรับฟัง ทางสภาที่ปรึกษาธุรกิจได้
เรียก สศค.เพื่อสอบถามถึงแนวทางการปรับโครงสร้างภาษี ทั้งนี้ ทาง สศค.ได้ชี้แจงว่า ปัจจัยที่จะกำหนดกรอบ
โครงสร้างภาษีใหม่จะมีอยู่ 3 ประการหลัก ประกอบด้วย 1) ความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 2) กระแสการเปิดเสรีการค้า ซึ่งในอีก 10-15 ปีข้างหน้า อัตราภาษี
ศุลกากรนำเข้าจะลดลงจนเป็นร้อยละ 0 ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของกรมศุลกากรจนเป็นศูนย์ 3) เมื่อจำเป็น
ต้องปรับระบบภาษีตามเหตุผล 2 ข้อดังกล่าวแล้ว ก็ปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน
ไปพร้อม ๆ กันเลย ไม่ใช่เฉพาะปรับเพื่อชดเชยรายได้กรมศุลกากรเท่านั้น (ผู้จัดการรายวัน)
3. ก.คลังให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ลดหนี้เสียให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 ของสินเชื่อภายใน 3
ปี รายงานจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง จะร่วมลงนามในแผน
การแก้ไขปัญหาหนี้เสียกับ ก.คลัง หลังจากที่ รมว.คลังได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เร่งแก้ไขปัญหา
หนี้เสียภายในหน่วยงานให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 ของสินเชื่อภายใน 3 ปี แม้บางแห่งจะมีระดับหนี้เสียที่ต่ำกว่า
ร้อยละ 10 แล้ว แต่บางแห่งก็ยังอยู่ในระดับสูงจำนวนร้อยละ 20-30 ของสินเชื่อรวม ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงิน
เฉพาะกิจทุกแห่งอยู่ระหว่างการจัดทำแผนเพื่อเสนอ ก.คลัง ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลง (กรุงเทพธุรกิจ, เด
ลินิวส์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 เทียบต่อปี รายงานจาก
โตเกียวเมื่อ 16 ม.ค.49 The Ministry of Finance เปิดเผยว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน พ.
ย.48 มีจำนวน 1.4182 ล้านล้านเยน (12.42 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 เมื่อเทียบกับเดือน
เดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1.51 ล้านล้านเยน ขณะที่เมื่อเทียบต่อเดือนหลังปรับฤดูกาลแล้ว ดุลบัญชีเดินสะพัดลดลงร้อยละ 6.2 ทั้งนี้
โดยยอดดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เทียบต่อปี เป็นจำนวน 703.6 พัน ล.เยน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ
14.2 และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 (รอยเตอร์)
2. คาดว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 49 จะแข็งแกร่งขึ้น รายงานจากบ
รัสเซลส์เมื่อ 13 ม.ค.49 The European Commission เปิดเผยการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ของกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ใช้สกุลยูโร (ยูโรโซน) ว่าจะขยายร้อยละ 0.4-0.9 ในช่วงไตรมาสที่ 2
ของปี (เดือน เม.ย.-มิ.ย.) สูงกว่า 2 ไตรมาสก่อนหน้าซึ่งคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.4-0.8 และสอด
คล้องกับการคาดการณ์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลี (Ifo และ ISAE) ซึ่งคาด
ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในไตรมาสที่ 2 จะขยายตัวร้อยละ 0.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.4 ใน
ช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ จากการที่ EU’s statistics office ได้เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์ใน
ประเทศของยูโรโซน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 48 ว่าขยายตัวร้อยละ 0.6 หลังจากการขยายตัวร้อยละ 0.4 และ
0.3 ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า เป็นการยืนยันถึงการค่อยๆ ฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน และส่งผลให้บรรดา
นักเศรษฐศาสตร์ต่างคาดการณ์ว่า The European Central Bank (ECB) อาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบาย เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้ออันเกี่ยวเนื่องมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ หลังจากได้ปรับ
เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 อยู่ที่ระดับร้อยละ 2.25 เมื่อ 1 ธ.ค.48 (รอยเตอร์)
3. ในปีนี้ ธ. กลางเกาหลีใต้มุ่งรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและป้องกันภาวะเงิน
เฟ้อ รายงานจากกรุงโซล เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 49 นาย Park Seung ผวก.ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การ
ดำเนินนโยบายทางการเงินของเกาหลีใต้ในปีนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อพร้อมกับที่ต้องสนับสนุนให้
เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้มีความเสี่ยงที่สำคัญคือการแข็งค่าของเงินวอน และราคา
น้ำมันที่สูงขึ้น นอกจากนั้น ธ.กลางยังต้องมีความรอบคอบในการบริหารจัดการปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบการเงิน
เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อในประเทศ จากการสูงขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เกาหลีใต้ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็น
ที่ 4 ในแถบเอเซีย จะสามารถประสบผลสำเร็จในการทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ร้อยละ 5.0 ในปีนี้ ด้วยการฟื้น
ตัวของความต้องการในประเทศและการส่งอออที่ขยายตัวอย่างมาก ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวออกมาภายหลังการประชุม
นโยบายการเงินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม ตามที่มี
การคาดการณ์กันไว้ อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ยังคงคาดการณ์ว่า ธ.กลางจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อีก 1 หรือ 2 ครั้ง ในปีนี้ ภายหลังจากที่ปรับเพิ่มมาแล้ว 2 ครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4/48 (รอยเตอร์)
4. คาดว่าในปีนี้จีนจะเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 — 20 รายงานจากเชียงไฮ้ เมื่อวันที่ 16
ม.ค. 49 เจ้าหน้าที่ ก. การค้าของจีน เปิดเผยว่า ในปีนี้การค้าระหว่างประเทศของจีนขยายตัวอย่างมากจากอุป
สงค์ในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาด สรอ. ที่อุปสงค์ผู้บริโภคขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้จีนจะ
เกินดุลการค้าสูงถึงระดับ 1.63 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 15 — 20 อย่างไรก็ตามมีบางความเห็นที่
ไม่สอดคล้องกันว่าในปีนี้ การเกินขยายตัวทางการค้าจะอยู่ที่ร้อยละ 15 แต่การเกินดุลไม่น่าจะสูงกว่าระดับในปี
48 ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว การค้าระหว่างประเทศของจีนสูงถึง 1.42 ล้านล้านดอลลาร์สรอ. เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.2
เมื่อปีก่อนหน้า และเกินดุลการค้าอยู่ที่ 102 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งสรอ. เห็นว่าการเกินดุลการค้าจำนวนมาก
ของจีนส่งผลต่อความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16 ม.ค. 49 13 ม.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.535 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.3591/39.6389 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.1516 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 755.72/ 29.57 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,300/10,400 10,150/10,250 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 57.19 57.62 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 11 ม.ค. 49 26.84*/24.29* 26.84*/24.29* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--