จากกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ โดยเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปสู้ศึกกัน ในสนามเลือกตั้งว่าใครจะได้เป็นรัฐบาลต่อไป    ในขณะที่บางกระแสก็บอกว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ต้องการให้มีการอภิปรายฯ ขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็น โอกาสดีที่รัฐบาลจะได้สร้างความเข้าใจในเรื่องต่างๆที่กำลังเป็นที่สนใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ  จำนวนทั้งสิ้น 1,594 คน  ระหว่างวันที่ 2-5 มีนาคม 2554  สรุปผลได้ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร? กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆนี้
อันดับ 1          ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นจริงและชัดเจนมากขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย                                 35.39%
อันดับ 2          เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว /รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศ
                ตามที่ประกาศไว้ได้                                                                      28.24%
อันดับ 3          การอภิปรายครั้งนี้เป็นเพียงแค่เกมการเมือง /กลยุทธ์ทางการเมือง                                   21.77%
อันดับ 4          ใช้เป็นการประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า                                            14.60%
2. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่? กับกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
อันดับ 1          เห็นด้วย            56.87%
เพราะ  เปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจมากขึ้น ,รัฐบาลไม่สามารถ
บริหารประเทศตามที่ประกาศไว้ได้ ,มีการทุจริต คอรัปชั่นกันมาก ฯลฯ
อันดับ 2          ไม่แน่ใจ            24.37%
เพราะ  คงเป็นเพียงแค่เกมการเมือง ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ฯลฯ
อันดับ 3          ไม่เห็นด้วย          18.76%
เพราะ  สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ยังไม่สู้ดี ควรให้รัฐบาลบริหารประเทศไปก่อน อีกไม่นานก็จะหมดวาระและเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ
3. ประชาชนอยากเห็นใคร? เป็นผู้นำในการอภิปราย
ฝ่ายรัฐบาล                    ภาพรวม          ฝ่ายค้าน                    ภาพรวม
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ              40.17%          ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง          51.44%
สุเทพ เทือกสุบรรณ              37.84%          จตุพร  พรหมพันธ์              26.09%
ชวน หลีกภัย                   21.99%          มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ             22.47%
4. เรื่องใด? ที่ประชาชนอยากให้มีการอภิปรายมากที่สุด
อันดับ 1          การดูแล ควบคุมราคาสินค้า เช่น น้ำมัน น้ำมันพืช ไข่ไก่ น้ำตาล  ฯลฯ            23.04%
อันดับ 2          การทุจริต คอรัปชั่น                                                  21.67%
อันดับ 3          การบริหารประเทศโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน              19.86%
อันดับ 4          การจัดการปัญหา/การดำเนินคดี /การสลายการชุมนุมของม๊อบกลุ่มต่างๆ            18.73%
อันดับ 5          ยาเสพติด /อบายมุข /ผู้มีอิทธิพล                                        16.70%
5. ประชาชนคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้มีผลต่อรัฐบาลอย่างไร?
ผลดี                                 ภาพรวม    ผลเสีย                                                  ภาพรวม
ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ       42.11%    อาจทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลายมากขึ้น                          37.02%
รู้ข้อบกพร่องหรือปัญหาที่ผ่านมา/ปรับปรุงให้ดีขึ้น  34.28%    หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ก็จะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า 34.13%
มีโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล  23.61%    เป็นการขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาพูดกัน ไม่เกิดประโยชน์อะไร               28.85%
6. ประชาชนคิดว่าการอภิปรายที่กำลังจะมีขึ้นจะส่งผลให้มีการยุบสภาหรือไม่?
อันดับ 1          ไม่มีผล           47.83%
เพราะ  รัฐบาลน่าจะมีการเตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาอย่างดี /มีเสียงข้างมากอยู่แล้ว ฯลฯ
อันดับ 2          ไม่แน่ใจ          36.23%
เพราะ   ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ,ต้องประเมินจากการอภิปรายครั้งนี้ก่อน ฯลฯ
อันดับ 3          มีผล             15.94%
เพราะ  สถานการณ์ทางการเมืองอาจบานปลายหรือแย่ลงกว่าเดิม ทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจยุบสภาก่อน ฯลฯ
7. ประชาชนคิดว่าการประท้วงของกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อสีต่างๆจะมีผลต่อการยุบสภามากน้อยเพียงใด?
อันดับ 1          ไม่ค่อยมีผล           44.92%
เพราะ  จากการประท้วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไม่สามารถทำอะไรรัฐบาลได้ ฯลฯ
อันดับ 2          ค่อนข้างมีผล          23.18%
เพราะ  ประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวหาเป็นเรื่องจริงและประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง ฯลฯ
อันดับ 3          ไม่มีผลเลย           21.76%
เพราะ  การยุบสภาขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมากกว่า ฯลฯ
อันดับ 4          มีผลอย่างมาก          10.14%
เพราะ  รัฐบาลได้รับความกดดันจากหลายฝ่ายเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะประชาชน ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--
-พห-