ประชาชน 73.86% เห็นว่า กรณีข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดเผย “อดีตนายกฯ ทักษิณ” ชักชวน “ประชาธิปัตย์” ร่วมรัฐบาล เป็นแค่เกมการเมือง โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากรู้สึกเบื่อหน่ายและหดหู่ใจ ถึง 42.95%ถ้า “รัฐบาล”รวมกับ “ประชาธิปัตย์” ประชาชนรับไม่ได้ 84.12%
จากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.ประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผยข่าวที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ติดต่อให้พรรคของตนมาเข้าร่วมรัฐบาลโดยแลกกับการไม่คัดค้านร่างรธน.และร่างพรบ.ปรองดองแห่งชาติ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเป็นไปได้ของข่าวนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏ สวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,398 คน ระหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายน 2555 สรุปผลได้ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร? ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาเปิดเผยข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชักชวน
พรรคประชาธิปัตย์มาเข้าร่วมรัฐบาลโดยแลกกับการไม่คัดค้านร่างรธน.และร่างพรบ.ปรองดองแห่งชาติ
อันดับ 1 เป็นการสร้างกระแสเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง / เป็นการเล่นเกมทางการเมือง 52.65%
อันดับ 2 ต้องการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ /เป็นพรรคที่มีบทบาทและรัฐบาลให้ความสำคัญ 15.92%
อันดับ 3 ต้องการชี้ให้สังคมเห็นว่าการบริหารงานของนายกฯยิ่งลักษณ์กำลังมีปัญหาและลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล 12.65%
อันดับ 4 เป็นการออกมาพูดเพื่อหยั่งเชิงดูว่าสังคมหรือกลุ่มนักการเมืองที่เกี่ยวข้องจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้ 9.80%
อันดับ 5 อาจมีความเป็นไปได้ที่มีการพูดคุยหรือมาติดต่อทาบทามกัน แต่ไม่น่าถึงขั้นจริงจังหรือลึกซึ้งอะไร 8.98%
2. ประชาชนเชื่อหรือไม่? จากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาเปิดเผยข่าวดังกล่าว
อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 47.96%
เพราะ การเมืองไทย ณ วันนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ที่นักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆควรตระหนัก
ก็คือการสร้างความปรองดองและหวังให้บ้านเมืองสงบสุขเป็นสำคัญ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เชื่อ 29.03%
เพราะ เป็นไปไม่ได้ที่พรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 2 พรรค ที่อยู่ต่างขั้วกันมาตลอดจะมาเข้าร่วมรัฐบาลเดียวกัน ,เป็นเกมการเมือง
ที่นายสุเทพหวังสร้างกระแสเพื่อเรียกความสนใจจากสังคม ฯลฯ
อันดับ 3 เชื่อ 23.01%
เพราะ น่าจะมีมูลความจริงเนื่องจากนายสุเทพเป็นนักการเมืองอาวุโสและเป็นที่เคารพนับถือของนักการเมืองทั่วไป มีนิสัยกล้าพูด ,
เรื่องที่เปิดเผยเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สมควรนำมาพูดเล่น ฯลฯ
3. ประชาชนจะรับได้หรือไม่? ถ้าหากการเมืองไทยจะมีฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว
อันดับ 1 รับไม่ได้ 84.12%
เพราะ เป็นการบริหารบ้านเมืองแบบเผด็จการ ไม่มีการถ่วงดุลหรือคานอำนาจ ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ,นักการเมืองมีอำนาจ
ในการบริหารประเทศมากเกินไป เกิดการทุจริต คอรัปชั่นในวงกว้าง ฯลฯ
อันดับ 2 รับได้ 15.88%
เพราะ หากข้อเสนอดังกล่าวจะทำให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายหรือยุติลงได้ ถ้าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านสามารถทำได้จริง
อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข นักการเมืองมีความสามัคคี ปรองดอง ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาประเทศ ฯลฯ
4. ประชาชนคิดว่าจากกรณีดังกล่าวเป็นการเล่นเกมการเมืองหรือไม่?
อันดับ 1 เป็นเกมการเมือง 73.86%
เพราะ เป็นการออกมาพูดเพื่อรอดูท่าทีของรัฐบาลและกระแสของสังคมว่าจะเป็นอย่างไร ,ต้องการเรียกร้องความสนใจและอยากให้กลุ่ม
ผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลเกิดความเข้าใจผิดและทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสนวุ่นวาย ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 21.13%
เพราะ สถานการณ์บ้านเมือง ณ วันนี้ไม่มีเสถียรภาพที่จริงแท้แน่นอน นักการเมืองต่างเล่นละครเข้าหากัน พูดจาเอาดีใส่ตัว
ไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนหลอก ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่เป็นเกมการเมือง 5.01%
เพราะ จากกระแสข่าวที่ออกมาคิดว่าน่าจะมีมูลความจริงอยู่บ้าง การออกมาพูดอาจเป็นเพียงสิ่งที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงทิศทาง
ทางการเมืองที่ดีที่อาจมีขึ้นก็เป็นได้ ฯลฯ
5. สิ่งที่ประชาชนได้รับจากข่าวที่เกิดขึ้น
อันดับ 1 ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการเมือง นอกจากความรู้สึกเบื่อหน่ายและหดหู่ใจ 42.95%
อันดับ 2 ได้เห็นพฤติกรรมของนักการเมืองที่มุ่งหวังแต่อำนาจและผลประโยชน์ /การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 27.24%
อันดับ 3 ได้รับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆที่แต่ละฝ่ายออกมากล่าวหาหรือแก้ต่างกัน 16.67%
อันดับ 4 รู้สึกสับสน /ขาดความเชื่อมั่น ไม่มั่นใจในตัวนักการเมือง ไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนเท็จ 13.14%
--สวนดุสิตโพลล์--