**ประชาชน 85.41% ยังคงให้ความสำคัญกับ “วันมาฆบูชา” นอกจากจะอธิษฐานให้ตนเองแล้วยังขอให้บ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักกัน 45.34%**
วันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้เป็นวันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก และได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ เช่น เหตุการณ์ที่มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย และเพื่อเป็นโอกาสอันดีถ้าคนไทยทุกคนจะนำวันนี้เป็นวันแห่งการเริ่มต้นการใช้ชีวิตใหม่ๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ดำรงชีวิตต่อไปด้วยหลักธรรมคำสอนอันดีงาม “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ต่อ “วันมาฆบูชา” จำนวน 1,136 คน ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2556 สรุปผลดังนี้
เพราะ มีในบทเรียน ,เป็นวันที่ผู้ใหญ่มักสอนเสมอว่า "ให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ฯลฯ
อันดับ 2 รู้เป็นอย่างดี 31.63%รู้ว่า เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก ,เกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการ มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกัน ณ วัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยรู้ 12.24%เพราะ จำประวัติความเป็นมาไม่ค่อยได้ ในประเทศไทยมีวันสำคัญทางศาสนาหลายวัน ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่รู้เลย 5.93%เพราะ ไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับความหมายของวันนี้ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะทำบุญใส่บาตรในวันนี้บ้าง ฯลฯ
เพราะ เป็นวันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธทุกคน ,เป็นวันหยุดทำให้มีเวลาเข้าวัดทำบุญมากขึ้น ,หาความสงบหาที่พึ่งทางใจ ฯลฯ
อันดับ 2 ให้ความสำคัญมาก 37.50%เพราะ ถือเอาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ในการดำรงชีวิตหรือการทำงาน ช่วยสร้างกำลังใจและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของคนไทยได้ ,ทำบุญเป็นประจำทุกปี ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ค่อยให้ความสำคัญ 13.54%เพราะ ถือว่าทุก ๆ วันมีความสำคัญเหมือนกันหมด , การคิดดี ทำดี ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ฯลฯ
อันดับ 4 ไม่ให้ความสำคัญเลย 1.05%เพราะ มีภาระงานมาก ,ระยะหลังมีข่าวพระสงฆ์ประพฤติผิดวินัยบ่อย ทำให้เสื่อมศรัทธาไม่อยากเข้าวัด ฯลฯ
โดยกิจกรรมที่ทำคือ ทำบุญ ตักบาตร ปล่อยนก ปล่อยปลา เข้าวัด สวดมนต์ เวียนเทียน ทำความสะอาดหิ้งพระ
อยู่กับครอบครัว ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษ 28.32%เพราะ ติดธุระ ต้องทำงาน ไม่ว่าง ไม่สะดวก ฯลฯ