หลังจากที่ทีมทนายความฝ่ายไทยได้ให้ถ้อยแถลงทางวาจาต่อศาลโลกเป็นรอบสุดท้าย โดยชี้ให้เห็นว่าศาลไม่มีอำนาจในการตีความเขตแดน เนื่องจากกัมพูชาไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักพอในการร้องขอให้ศาลตีความ อีกทั้งเห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความพยายามของกัมพูชาที่ต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวจึงไม่ชัดเจนในคำขอของกัมพูชา ซึ่งไทยก็ใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองตามหลักสากล เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีความเป็นห่วงและกังวลในเรื่องนี้ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศที่สนใจติดตามข่าวดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 1,710 คน ระหว่างวันที่ 18-20 เมษายน 2556 สรุปผลได้ดังนี้
เพราะ ดูจากการแถลงของทีมทนายฝ่ายไทยสามารถชี้แจงประเด็นต่างๆได้อย่างชัดเจน ตรงประเด็น
การเตรียมพร้อมด้านข้อมูล เอกสารหลักฐานประกอบต่างๆที่น่าเชื่อถือ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 31.25%เพราะ ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลโลกและการนำถ้อยแถลงของทั้ง 2 ฝ่ายไปพิจารณา อาจมีปัจจัยอื่นๆ
ที่สำคัญและมีผลต่อการตัดสินคดี ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบพอๆกัน 17.65%เพราะ ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล และมีการนำเอกสารหลักฐานต่างๆมาชี้แจงเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิของตนเอง ฯลฯ
อันดับ 4 กัมพูชาได้เปรียบมากกว่า 14.34%เพราะ กัมพูชาหยิบยกประเด็นเรื่องความไม่สงบสุขมาเป็นเครื่องต่อรองในเรื่องนี้ ฯลฯ
1) สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกนักการเมือง “ฝ่ายรัฐบาล” คือ
อันดับ 1 จะต้องปกป้องผลประโยชน์และศักดิ์ศรีของประเทศชาติเป็นสำคัญ ให้การสนับสนุนและร่วมมือกับทุกฝ่าย ที่จะเป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ 58.72% อันดับ 2 รัฐบาลจะต้องสั่งการหรือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีต้องการเอกสาร ข้อมูลเพิ่มเติม และให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ 25.53% อันดับ 3 เผยแพร่ข่าวสารความคืบหน้าของคดีนี้ให้ประชาชนได้รับรู้ และจะต้องไม่ปกปิด หรือบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน 15.75%2) สิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกนักการเมือง “ฝ่ายค้าน” คือ
อันดับ 1 ให้ความร่วมมือ คำปรึกษาแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ 60.00% อันดับ 2 ไม่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองหรือหาประโยชน์ /ไม่ค้านทุกเรื่อง 29.73% อันดับ 3 ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ดี คอยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 10.27% --สวนดุสิตโพลล์--