จากที่รัฐบาลประกาศปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกปี 56 ลงเหลือ 12,000 บาท/ตัน จาก 15,000 บาท/ตัน และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 56 พร้อมจำกัดวงเงินการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรไว้ที่ไม่เกินรายละ 500,000 บาท โดยคาดว่าจะขาดทุนปีละ ไม่ถึง 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนและเพื่อเป็นแนวทางที่จะช่วยกันหาทางออกให้กับรัฐบาล “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,310 คน ระหว่างวันที่ 19-22 มิถุนายน 2556 สรุปผลดังนี้
เพราะ ส่งผลกระทบต่อชาวนาซึ่งได้รับความเดือดร้อนโดยตรง เนื่องจากมีการลงทุนซื้อปุ๋ย ซื้อยา
ค่าน้ำมันไปแล้ว ชาวนาต้องสูญเสียรายได้ ขาดทุน ควรแก้ที่ต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริงจะดีกว่าไม่ใช่มาแก้ที่ปลายเหตุ ฯลฯ
อันดับ 2 เห็นด้วย 25.19%เพราะ ช่วยลดภาระของรัฐบาลที่แบกรับมานาน ราคาที่ตั้งไว้ 15,000 บาทสูงเกินไป ควรอิงกับราคาของตลาด
จะได้ ไม่ขาดทุนหรือมีการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการ ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 15.65%เพราะ ถึงอย่างไรชาวนาก็ยังปลูกข้าวตามปกติ จำนวนข้าวที่เหลือกับข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยวรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
ควรศึกษาให้รอบคอบดูต้นทุนการผลิตด้วยว่าชาวนาต้องจ่ายไปเท่าไหร่ และดูสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกด้วย ฯลฯ
เพราะ รัฐบาลสามารถควบคุมการใช้เงินได้ โครงการจะได้ดำเนินต่อไป ทั้งรัฐบาลและชาวนาควรจะช่วยเหลือกัน
คนละครึ่งทาง ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่เห็นด้วย 35.11%เพราะ เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ไม่ควรแก้ปัญหาโดยให้ชาวนาต้องได้รับความเดือดร้อน ฯลฯ
อันดับ 3 ไม่แน่ใจ 22.14%เพราะ ชาวนาแต่ละรายปลูกข้าวในแต่ละปีมีจำนวนมากน้อยแตกต่างกัน ควรอิงราคาตลาดและดูสถานการณ์ของ
เศรษฐกิจโลกก่อน ฯลฯ
--สวนดุสิตโพลล์--