สวนดุสิตโพล: การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี

ข่าวผลสำรวจ Monday October 4, 2021 08:36 —สวนดุสิตโพล

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน                 โควิด-19 และหวังให้เด็กกลับมาเรียนตามปกติให้ได้เร็วที่สุด เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานอยู่ในวัยเรียน ?สวนดุสิตโพล?มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานในวัยเรียนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,089 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน 2564 สรุปผล ได้ ดังนี้

1. ประชาชนพร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีนหรือไม่
     พร้อม 61.43%         ขอรอดูก่อน 26.17%       ไม่พร้อม 12.40%

2. ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีนที่จะฉีดให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปีหรือไม่
     เชื่อมั่น 64.72%        ไม่เชื่อมั่น 35.28%

3. ประชาชนคิดว่าการฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี มีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
     มีผลดีมากกว่า 46.74%          มีทั้งผลดีผลเสียพอๆกัน 40.96%                  มีผลเสียมากกว่า 12.30%

4. เรื่องใดที่ประชาชนเป็นห่วงสำหรับการฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี
อันดับ 1          อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน          77.59%
อันดับ 2          ผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีต่อเยาวชนในระยะยาว                69.42%
อันดับ 3          ความรับผิดชอบกรณีหากมีอาการผิดปกติ               62.08%
อันดับ 4          ประสิทธิภาพของวัคซีน                61.89%
อันดับ 5          สุขภาพร่างกายก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19                 47.20%

5. ประชาชนอยากให้รัฐจัดการการฉีดวัคซีนแบบใด
อันดับ 1          มาฉีดให้ที่โรงเรียน                  64.13%
อันดับ 2          ผู้ปกครองพาไปฉีดที่โรงพยาบาล                 17.02%
อันดับ 3          ผู้ปกครองพาไปฉีดที่ศูนย์บริการส่วนกลาง                     10.19%
อันดับ 4          โรงเรียนพาไปฉีดที่ศูนย์ส่วนกลาง          8.66%

6. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการฉีดวัคซีนให้เยาวชนอายุ 12-17 ปี เพื่อให้สามารถไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ
     เห็นด้วย 75.44%                ไม่เห็นด้วย 24.56%


*หมายเหตุ   ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)










สรุปผลการสำรวจ : ?การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี?

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานในวัยเรียนต่อกรณี ?การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี? จำนวนทั้งสิ้น 1,089 คน ระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน 2564 พบว่า ประชาชนที่มีบุตรหลานพร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน ร้อยละ 61.43 ขอรอดูก่อน ร้อยละ 26.17 และไม่พร้อม ร้อยละ 12.40 โดยเชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน ร้อยละ 64.72 คิดว่าการฉีดวัคซีนมีผลดีมากกว่าผลเสีย ร้อยละ 46.74 มีทั้งผลดีและผลเสียพอ ๆ กัน ร้อยละ 40.96 เรื่องที่เป็นห่วงคืออาการข้างเคียงหลังฉีด ร้อยละ 77.59 ทั้งนี้อยากให้จัดการฉีดวัคซีนให้                 ที่โรงเรียน ร้อยละ 64.13 และเห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เปิดเรียนได้ตามปกติ ร้อยละ 75.44
ผู้ปกครองพร้อมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนถึงแม้ยังกังวลเรื่องผลข้างเคียง โดยคาดว่าจะช่วยให้บุตรหลานสามารถไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยลดระดับความเครียดของผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานที่บ้านอีกด้วย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลโพลในต่างประเทศ พบว่าผู้ปกครองยังไม่พร้อมมากนักเพราะยังกังวลผลในระยะยาว วัคซีนสำหรับเด็กอาจเป็นตัวเปลี่ยนสถานการณ์โควิด-19 ได้ และเด็กทุกคนรวมถึงเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาไปแล้วก็ควรได้รับสิทธิในการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนที่ป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการฟื้นฟูด้านการศึกษาและเศรษฐกิจของประเทศ

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โทร 086-3766533

จากผลการสำรวจพบว่าประชาชนมีความพร้อมที่จะให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีน อาจเนื่องจากความเชื่อมั่นในการป้องกันอาการรุนแรงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับข้อมูลที่พบว่าหลายประเทศได้เริ่มมีการฉีดให้กับเด็กในวัยนี้ จึงทำให้เห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย โดยเฉพาะเรื่องการเปิดโรงเรียนเพื่อเรียนได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามจากผลการสำรวจพบว่า ประชาชนยังกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงของการได้รับวัคซีน เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่จะเกิดในเด็กที่ได้รับวัคซีนแล้ว อาจยังมีค่อนข้างน้อย และสำหรับประเทศไทยเพิ่งเริ่มต้นในการฉีดวัคซีนให้กับเด็กกลุ่มนี้ ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจหรือลดความเป็นห่วง ทั้งนี้การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการฉีดวัคซีน รวมถึงวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังรับวัคซีน และข้อมูลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับวัคซีน จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค เป็นต้น จะช่วยลดความกังวลลงได้

อาจารย์ ดร.รุ่งนภา ป้องเกียรติชัย

ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรพยาบาลศาสตร์

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ที่มา: สวนดุสิตโพล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ