จากการแพร่ระบาดของ“โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” ในประเทศไทย ณ ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 41 จังหวัด ทำให้กระทรวง สาธารณสุขกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ( สสจ.) ทั่วประเทศ เฝ้าระวังผู้ป่วยและควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่ ช่วง 3 เดือนนี้ รวมทั้งขอ ความร่วมมือไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ โรงงาน หรือหน่วยงานอื่นๆ และสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ให้ ประชาชนเข้าใจ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมกับ “รายการก่อนตัดสินใจ” จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน เขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ที่มีความคิดเห็นต่อสถานการณ์ของโรคดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 1,194 คน ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2552 สรุปผลได้ดังนี้
1. สถานการณ์ของโรคไข้หวัด 2009 ณ วันนี้ มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาหรือไม่?
อันดับ 1 มากขึ้น 91.67%
เพราะ เชื้อไข้หวัดมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว , ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้น ,กระทรวงสาธารณสุขยังไม่
สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ,ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันโรคนี้อยู่มาก ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 5.25%
เพราะ การนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆในขณะนี้อาจทำให้ดูเหมือนว่ารุนแรง เพราะทุกสื่อมีการนำเสนอข่าวนี้เหมือนกันหมด ฯลฯ
อันดับ 3 เหมือนเดิม 3.08%
เพราะ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างยอดผู้เสียชีวิตกับยอดผู้ติดเชื้อพบว่ายังอยู่ในระดับที่น้อยมาก ,ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วมี
จำนวนมากเช่นกัน ,คิดว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคนี้ได้ ฯลฯ
2. ความรู้สึกของประชาชนตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 จนถึงขณะนี้
อันดับ 1 น่ากลัว 82.29%
เพราะ มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ,เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ ทำให้เป็นปอดบวม ,
เมื่อเกิดการติดเชื้อแล้วจะไม่แสดงอาการออกมาทันที ,กระทรวงสาธารณสุขยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ฯลฯ
อันดับ 2 ไม่น่ากลัว 17.71%
เพราะ หากรู้จักป้องกันตัวเองอย่างถูกวิธี ,หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ ,ปฏิบัติตามข้อแนะนำที่
กระทรวงสาธารณสุขประกาศออกมา ฯลฯ
3. สาเหตุที่ทำให้จำนวนตัวเลขการเสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย
อันดับ 1 ประชาชนไม่ได้ดูแลตัวเองเท่าที่ควร 25.74%
อันดับ 2 มาตรการของรัฐยังไม่รัดกุม 24.75%
อันดับ 3 มีการปกปิดข้อมูล ข้อเท็จจริงบางประการ 19.31%
อันดับ 4 การประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอ 15.84%
อันดับ 5 สภาพอากาศทำให้เชื้อแพร่กระจายได้เร็ว 14.36%
4. จากที่รัฐบาลประกาศสั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาเป็นเวลา 15 วัน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
จะได้ผลหรือไม่?
อันดับ 1 ไม่ได้ผล 68.75%
เพราะ การแพร่ระบาดไม่ได้มีเฉพาะแค่ ร.ร.กวดวิชาเท่านั้น ห้างสรรพสินค้า สถานที่ทำงาน หรือตามสถานที่ต่างๆที่มีคนอยู่จำนวนมาก
ก็มีภาวะเสี่ยงเช่นกัน ,เป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ,ถ้าประชาชนไม่รู้จักป้องกันตัวเองก็ทำให้แก้ไขปัญหาได้ยาก ฯลฯ
อันดับ 2 ได้ผล 31.25%
เพราะ ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่กำลังขยายวงกว้างอย่างรวดเร็วได้ในระดับหนึ่ง ,เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเพิ่ม
ความระมัดระวังตัวเองให้มากยิ่งขึ้น ,ทำให้เด็กไม่เสี่ยงต่อการติดโรค ฯลฯ
5. ความเพียงพอต่อมาตรการต่างๆที่รัฐบาลประกาศออกมา
อันดับ 1 ไม่เพียงพอ 89.58%
อันดับ 2 เพียงพอ 10.42%
6. มาตรการที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลประกาศออกมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและยับยั้งการเสียชีวิต
อันดับ 1 ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และการป้องกันตัวให้มากยิ่งขึ้น 22.51%
อันดับ 2 การเปิดเผยข้อมูลความจริง ทั้งตัวเลขการเสียชีวิตและยอดผู้ติดเชื้อ 17.84%
อันดับ 3 ปิดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ตามสถานที่ต่างๆทั้งรัฐและเอกชน 14.62%
อันดับ 4 กำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน 13.45%
อันดับ 5 งดจัดคอนเสิร์ตตามสถานบันเทิงและตามสถานที่ต่างๆ 9.65%
อันดับ 6 งดจัดประชุมสัมมนา /งดจัดนิทรรศการ งาน EVENT ต่างๆ 8.77%
อันดับ 7 ใช้มาตรการปิดโรงเรียน เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ ทั่วประเทศ 7.02%
อันดับ 8 ปิดสถานที่ทำงานทั้งรัฐและเอกชนไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ พร้อมกันทั่วประเทศ 6.14%
7. ประชาชนคิดอย่างไร ? จากที่มีการประเมินกันว่าโรคนี้จะอยู่ในประเทศต่อไปอีกเป็นเวลา 3 ปี
และจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
อันดับ 1 รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งหามาตรการควบคุมอย่างเร่งด่วน 26.37%
อันดับ 2 ควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกคนมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเองมากยิ่งขึ้น 25.41%
อันดับ 3 ทำให้ประชาชนต้องดำรงชีวิตประจำวันด้วยความลำบากมากขึ้น /ทำให้วิตกกังวล เครียด 22.80%
อันดับ 4 เป็นโรคที่น่ากลัวและมีความร้ายแรง/ส่งผลให้เศรษฐกิจและประเทศชาติย่ำแย่ 17.73%
อันดับ 5 ทางแพทย์ไทยควรเร่งคิดค้นวัคซีนที่ใช้ในการรักษาให้เร็วที่สุด 7.69%
8. ความเชื่อมั่นต่อ “รัฐบาล” “กระทรวงสาธารณสุข” และ “แพทย์ไทย” ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เชื่อมั่น ไม่เชื่อมั่น
อันดับ 1 แพทย์ไทย 74.47% 25.53%
อันดับ 2 รัฐบาล 38.30% 61.70%
อันดับ 3 กระทรวงสาธารณสุข 31.91% 68.90%
9. คะแนนเต็ม 10 ประชาชนให้คะแนนดังต่อไปนี้
อันดับ 1 แพทย์ไทย 7.41 คะแนน
อันดับ 2 รัฐบาล 5.69 คะแนน
อันดับ 3 กระทรวงสาธารณสุข 5.59 คะแนน
10. จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกในการผลิตวัคซีน โดยจะ
มีการเปิดโรงงานผลิต และวิจัยวัคซีนป้องกันหวัด 2009 ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ประชาชนมี
ความคิดเห็นอย่างไร ?
อันดับ 1 เห็นด้วยและควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน 60.32%
อันดับ 2 ทำให้วัคซีนมีราคาไม่แพงเกินไปและมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ 21.01%
อันดับ 3 ควรเปิดเป็นโรงงานผลิตและพัฒนา วิจัยวัคซีนต่างๆอย่างถาวรไปเลย 18.67%
--สวนดุสิตโพล--
-พห-