สวนดุสิตโพลล์: ประเมินผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ข่าวผลสำรวจ Wednesday June 2, 2010 15:42 —สวนดุสิตโพล

จากที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯอภิสิทธิ์ และรัฐมนตรีรายบุคคล ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. -1 มิ.ย. 53 โดยประเด็นในการอภิปรายส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของการสลายม็อบของรัฐบาลและการทุจริตโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นและ ประเมินผลหลังการอภิปราย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศที่สนใจติดตามการอภิปราย ครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 1,134 คน ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม — 2 มิ.ย. 2553 สรุปผลได้ดังนี้

1. ความคิดเห็นของประชาชน ต่อ การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้
อันดับ 1          เนื้อหา/ประเด็นในการอภิปรายเหมือนเดิม /ไม่มีข้อมูลใหม่ๆมานำเสนอหรือชี้แจง  /เสียเวลา เหมือนดูปาหี่   46.15%
อันดับ 2          เป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ชี้แจงและแสดงความคิดเห็นออกมา                      26.92%
อันดับ 3          หลักฐานที่แต่ละฝ่ายนำมาแสดงไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ                                       15.38%
อันดับ 4          บรรยากาศโดยรวมของการประชุมยังคงเหมือนเดิม เช่น การประท้วง พูดจาเสียดสี ไม่เคารพที่ประชุม ฯลฯ   11.55%

2. สิ่งที่ประชาชน “สมหวัง” ในการอภิปรายครั้งนี้
อันดับ 1          ผู้อภิปรายหลักของทั้ง 2 ฝ่าย ทำหน้าที่ได้เหมาะสม เป็นไปตามที่คาดหวัง                             42.04%
อันดับ 2          ทั้ง 2 ฝ่าย สามารถควบคุมเวลาในการอภิปรายได้ดี                                            24.32%
อันดับ 3          การประชุมการอภิปรายครั้งนี้ในภาพรวมถือว่าอยู่ในขั้นที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประท้วงอยู่บ้าง              19.93%
อันดับ 4          ประธานที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการอภิปรายโดยเฉพาะ นายชัย ชิดชอบ                              13.71%

3. สิ่งที่ประชาชน “ผิดหวัง” ในการอภิปรายครั้งนี้
อันดับ 1          เนื้อหาในการอภิปรายเป็นเรื่องเดิมๆ ไม่น่าสนใจ ไม่มีข้อมูลใหม่ๆ          52.95%
อันดับ 2          การทะเลาะเบาะแว้ง  / การลุกขึ้นประท้วง                         29.41%
อันดับ 3          การจับภาพขณะที่มีการอภิปรายไม่ชัดเจน ควรซูมให้ใกล้ๆ                 11.76%
อันดับ 4          การใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม อ้างถึงบุคคลที่สาม                          5.88%

4.  “ฝ่ายค้าน” ที่อภิปรายได้ถูกใจมากที่สุด คือ
อันดับ 1          ร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง           48.45%
อันดับ 2          นายจตุพร  พรหมพันธุ์             30.92%
อันดับ 3          น.อ.อนุดิษฐ์  นาครทรรพ          14.43%
อันดับ 4          นายเชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ          6.20%

5.  “ฝ่ายรัฐบาล” ที่อภิปรายได้ถูกใจมากที่สุด คือ
อันดับ 1          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ            67.86%
อันดับ 2          นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ           17.57%
อันดับ 3          นายสาธิต  วงศ์หนองเตย           8.33%
อันดับ 4          นายโสภณ  ซารัมย์                6.24%

6.  การอภิปรายครั้งนี้มีผลกระทบต่อการที่รัฐบาลสร้างความปรองดองหรือไม่?
อันดับ 1          ไม่มีผล กระทบต่อการสร้างความปรองดอง       60.38%

เพราะ การปรองดองต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้น ฯลฯ

อันดับ 2          ทำให้การสร้างความปรองดอง ยากขึ้น          32.70%

เพราะ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอก ,การอภิปรายครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความคิดที่แตกต่างกัน ,ไม่จริงใจต่อกัน ฯลฯ

อันดับ 3          ทำให้การสร้างความปรองดอง ง่ายขึ้น           6.92%

เพราะ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลได้ระบาย และแสดงความรู้สึกออกมา อาจช่วยให้ปัญหาต่างๆคลี่คลายได้มากขึ้น ฯลฯ

7. ประโยชน์ที่ได้จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
อันดับ 1          ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ความเป็นไปทางการเมืองและสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น          56.21%
อันดับ 2          ได้เห็นพฤติกรรม ท่าทาง การพูดจาของนักการเมือง                            28.52%
อันดับ 3          ได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายต่างๆที่อ้างถึงในการอภิปราย                         8.97%
อันดับ 4          เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับใช้ในการตัดสินใจหากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป                6.30%

8.  การอภิปรายครั้งนี้มีผลต่อคะแนนนิยมของ “ฝ่ายรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน” อย่างไร?

ฝ่ายรัฐบาล

อันดับ 1          นิยมเท่าเดิม          52.34%

เพราะ ยังคงชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์และนายกฯ อภิสิทธิ์เหมือนเดิม ,คิดว่ารัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว ฯลฯ

อันดับ 2          นิยมมากขึ้น           26.85%

เพราะ ผู้ที่ถูกอภิปรายมีการเตรียมพร้อมและมีการชี้แจงได้ดี ,การควบคุมอารมณ์และบุคลิกท่าทางที่เหมาะสม ฯลฯ

อันดับ 3          นิยมน้อยลง           20.81%

เพราะ การชี้แจงไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ตอบคำถามไม่ชัดเจน ,ข้อมูลเดิมๆ ไม่มีหลักฐานเด็ดๆนำมาแสดง ฯลฯ

ฝ่ายค้าน

อันดับ 1          นิยมเท่าเดิม          53.64%

เพราะ ข้อมูลเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่มานำเสนอ ฯลฯ

อันดับ 2          นิยมน้อยลง           29.80%

เพราะ ยังไม่ค่อยมั่นใจในข้อมูลหรือหลักฐานที่นำมาเสนอ ,กริยาท่าทางที่ไม่สุภาพของผู้อภิปรายบางท่าน ไม่เคารพที่ประชุม ฯลฯ

อันดับ 3          นิยมมากขึ้น           16.56%

เพราะ สามารถหาเหตุผลมาหักล้างเพื่อสร้างความเชื่อถือได้ , ผู้อภิปรายมีความมั่นใจในการนำเสนอข้อมูล ฯลฯ

--สวนดุสิตโพล--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ