แนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday October 31, 2005 14:34 —ประกาศ ก.ล.ต.

                    ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ อธ/น/ข. 11/2548
เรื่อง แนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบ
การแต่งตั้งผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
____________________________
โดยที่มาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และข้อ 2 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กธ/น/ข. 37/2548 เรื่อง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ลงวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2548 กำหนดให้การแต่งตั้งหรือการยอมให้บุคคลใดเป็นหรือทำหน้าที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. สำนักงาน ก.ล.ต. จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการขอความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
“ผู้ประกอบธุรกิจสัญญา” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
“ผู้บริหาร” หมายความว่า บุคคลที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาแต่งตั้งหรือยอมให้เป็นหรือทำหน้าที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ
“ผู้จัดการ” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบสูงสุดในการบริหารงานของบริษัท ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างใดก็ตาม
“บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ” หมายความว่า รองผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้จัดการสาขา และผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่นโดยบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบงานในสายงานเกี่ยวกับการให้บริการด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การปฏิบัติการด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การกำกับดูแลการปฏิบัติงานด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งนี้ ไม่ว่าสายงานนั้นจะปฏิบัติงานเพื่อให้บริการแก่บุคคลอื่นหรือเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาเอง และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการงานที่เกี่ยวกับธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เช่น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการพิจารณาการลงทุน หรือคณะกรรมการกำกับดูแลการปฏิบัติงาน เป็นต้น
ข้อ 2 ในการขอรับความเห็นชอบและการให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดแนวปฏิบัติไว้ดังนี้
(1) กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาแต่งตั้งบุคคลใหม่เป็นผู้บริหารของบริษัท หรือกรณีอื่นนอกจากที่กำหนดใน (2) ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) กรณีแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการหรือผู้จัดการ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญายื่นคำขอรับความเห็นชอบต่อสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบคำขอตามแบบและวิธีการที่สำนักงาน ก.ล.ต. จัดไว้ในระบบงานอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน ก.ล.ต.
(ข) กรณีแต่งตั้งบุคคลเป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ และหากบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และประกาศว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้ถือว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ประกอบธุรกิจสัญญา
(2) กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาเปลี่ยนตำแหน่งหรืออำนาจในการจัดการของบุคคลที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ไปแล้ว จากตำแหน่งผู้จัดการเป็นตำแหน่งกรรมการ หรือจากตำแหน่งกรรมการที่มีอำนาจในการจัดการเป็นตำแหน่งกรรมการที่ไม่มีอำนาจในการจัดการ ให้ถือว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบบุคคลดังกล่าวเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาในตำแหน่งหรืออำนาจที่เปลี่ยนแปลงใหม่ ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญามีหนังสือแจ้งการเปลี่ยนตำแหน่งหรืออำนาจของบุคคลดังกล่าวต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่การเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลบังคับ พร้อมทั้งระบุวันที่การเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลบังคับไว้ในหนังสือที่แจ้งด้วย
ข้อ 3 สำนักงาน ก.ล.ต. จะแจ้งผลการพิจารณาคำขอรับความเห็นชอบตามข้อ 2 (1)(ก) ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน เว้นแต่เป็นกรณีมีเหตุจำเป็นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและสำนักงาน ก.ล.ต. ได้แจ้งเหตุจำเป็นดังกล่าวให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาทราบก่อนสิ้นสุดระยะเวลาสามสิบวันดังกล่าวแล้ว
ข้อ 4 ความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้บุคคลใดเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาย่อมสิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้
(1) กรณีที่ความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นแบบมีกำหนดระยะเวลา ให้ความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. สิ้นสุดลงเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดนั้น
(2) กรณีที่บุคคลนั้นพ้นจากตำแหน่งผู้บริหารที่ได้รับความเห็นชอบด้วยเหตุอื่นที่มิใช่เพราะเหตุที่ถูกสำนักงาน ก.ล.ต. เพิกถอนความเห็นชอบ เช่น การพ้นจากตำแหน่งตามวาระและผู้ประกอบธุรกิจสัญญามิได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวอีกต่อไป หรือการลาออกจากตำแหน่ง เป็นต้น ให้ความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. สิ้นสุดลงในวันที่การพ้นจากตำแหน่งนั้นมีผลบังคับ
(3) กรณีที่บุคคลนั้นถูกสำนักงาน ก.ล.ต. เพิกถอนความเห็นชอบเพราะเหตุที่บุคคลนั้นขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ให้ความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. สิ้นสุดลงในวันที่การเพิกถอนความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. มีผลบังคับ
ข้อ 5 เมื่อความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้บุคคลใดเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาสิ้นสุดลงเพราะเหตุตามข้อ 4 (3) ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาต้องดำเนินการให้ผู้บริหารรายนั้นพ้นจากตำแหน่งหรือหน้าที่ในบริษัทภายในระยะเวลาที่จำเป็นและสมควรโดยไม่ชักช้า
ข้อ 6 เมื่อผู้ประกอบธุรกิจสัญญาได้รับหรือถือว่าได้รับความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดเป็นผู้บริหารของบริษัทแล้ว หรือเมื่อความเห็นชอบของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้บุคคลใดเป็นผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาสิ้นสุดลง หากตำแหน่งของบุคคลดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่ต้องมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกับนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กระทรวงพาณิชย์ ให้ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาส่งสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนั้นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนแล้วเสร็จ
ข้อ 7 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2548
(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ