การกำหนดอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday October 1, 2003 15:00 —ประกาศ ก.ล.ต.

                        ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ สน. 25/2546
เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์
_____________________________
โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ เพื่อปฏิรูปแนวทางการลงทุนของกระทรวงการคลังให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ การออม และการลงทุนของประเทศ และเพื่อเพิ่มทางเลือกของประชาชนผู้ออมเงินในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ จึงต้องกำหนดอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ดังกล่าว ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 126(4) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และข้อ 5 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 26/2546 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 จึงออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในประกาศนี้
"กองทุนรวมวายุภักษ์" หมายความว่า กองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2546
"ประกาศ ที่ สน. 11/2542" หมายความว่า ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 11/2542 เรื่อง การกำหนดอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนรวม ลงวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2542
"บริษัทจัดการ" หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม
"ประกาศ ที่ กน. 14/2544" หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 14/2544 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดการกองทุนรวมในกรณีที่ผู้ออกตราสารแห่งหนี้หรือลูกหนี้ตามสิทธิเรียกร้องผิดนัดชำระหนี้ ลงวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2544
"กิจการ" หมายความว่า บริษัทที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
"คำเสนอซื้อ" หมายความว่า คำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ
"ประกาศ ที่ กจ. 53/2545" หมายความว่า ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 53/2545 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ข้อ 2 อัตราส่วนการลงทุนหรือแสวงหาประโยชน์จากหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทรัพย์สินอื่น หรือไปหาดอกผลหรือแสวงหาประโยชน์โดยวิธีอื่น เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ นอกจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ให้เป็นไปตามประกาศ ที่ สน. 11/2542โดยอนุโลม
ข้อ 3 ให้บริษัทจัดการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิและใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละห้าสิบของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมวายุภักษ์
ข้อ 4 บริษัทจัดการอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ในขณะใดขณะหนึ่งได้ตามอัตราส่วนดังต่อไปนี้
(1) ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ได้ไม่ถึงร้อยละยี่สิบห้าของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทจัดการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทดังกล่าว เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์เนื่องจากการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่นตามประกาศ ที่ กน. 14/2544 และ
(2) ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น มีมูลค่าไม่เกินอัตราส่วนต่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมตามข้อ 4 และข้อ 6 แห่งประกาศ ที่ สน. 11/2542
ข้อ 5 ในกรณีที่บริษัทจัดการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของบริษัทใดที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ขายหุ้นดังกล่าวให้กองทุนรวมวายุภักษ์ บริษัทจัดการอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้น หลักทรัพย์ และทรัพย์สินอื่น เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ในขณะใดขณะหนึ่งได้ตามอัตราส่วนดังต่อไปนี้
(1) ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของบริษัทดังกล่าว ได้ไม่ถึงร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทจัดการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทดังกล่าว เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์เนื่องจากการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่นตามประกาศ ที่ กน. 14/2544 และ
(2) ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้น หลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่น ที่บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้ค้ำประกัน เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละห้าสิบของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมวายุภักษ์ ทั้งนี้ ให้นับหุ้น หลักทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่บริษัทนั้นเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้ค้ำประกัน ตามธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน รวมในอัตราส่วนการลงทุนดังกล่าว และในกรณีที่บริษัทดังกล่าวเป็นธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นหรือธนาคารพาณิชย์ ให้นับเงินฝากในธนาคารดังกล่าวที่มิใช่เงินฝากในบัญชีเงินฝากเพื่อการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ รวมในอัตราส่วนดังกล่าวด้วย
การคำนวณอัตราส่วนการลงทุนตาม (2) มิให้นับตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน และพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน รวมในอัตราส่วนดังกล่าว
การรับรอง รับอาวัล สลักหลัง หรือค้ำประกันตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ต้องเป็นการรับรองตลอดไป รับอาวัลทั้งจำนวน สลักหลังโอนประเภทมีสิทธิไล่เบี้ยโดยไม่มีข้อกำหนดลบล้างหรือจำกัดความรับผิดของผู้สลักหลัง หรือค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มจำนวนอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้คำนวณอัตราส่วนการลงทุนตามความรับผิดหรือภาระผูกพันของผู้รับรอง ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้ค้ำประกัน แต่ในกรณีอื่นให้คำนวณอัตราส่วนการลงทุนตามความรับผิดของผู้ออกตราสารแห่งหนี้หรือตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน
ข้อ 6 ในกรณีที่มีการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทใดเนื่องจากการรับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินอื่นตามประกาศ ที่ กน. 14/2544 เป็นผลให้กองทุนรวมวายุภักษ์ได้มาหรือเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นเกินอัตราส่วนการลงทุนตามข้อ 4(1) หรือข้อ 5(1) ให้บริษัทจัดการดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศ ที่ กน. 14/2544 และ
(2) งดเว้นการใช้สิทธิออกเสียงในหุ้นจำนวนที่เกินอัตราส่วนการลงทุนดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรโดยได้รับการผ่อนผันจากสำนักงาน
ข้อ 7 ในกรณีที่บริษัทจัดการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของบริษัทที่เป็นกิจการ เป็นผลให้กองทุนรวมวายุภักษ์ได้มาหรือเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นจนถึงหรือข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อ บริษัทจัดการต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับการยกเว้นการทำคำเสนอซื้อโดยการลดสัดส่วนการถือหุ้นหรือลดการมีอำนาจควบคุม หรือยื่นคำขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อ ตามประกาศ ที่ กจ. 53/2545
ข้อ 8 ให้บริษัทจัดการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝากในธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ธนาคารพาณิชย์ หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเงินทุนเป็นผู้ออก ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารต่างประเทศ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้นเป็นผู้ออก และตั๋วแลกเงินที่ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารต่างประเทศ บริษัทเงินทุน บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ สถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น เป็นผู้ออก เพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมวายุภักษ์ได้ เป็นจำนวนที่มีมูลค่ารวมโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละสี่สิบห้าของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมวายุภักษ์ แต่ทั้งนี้มิให้นับเงินฝากในบัญชีเงินฝากเพื่อการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์รวมในอัตราส่วนดังกล่าว
อัตราส่วนการลงทุนตามวรรคหนึ่ง มิให้นำมาใช้บังคับในรอบปีบัญชีแรกที่ได้จดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมวายุภักษ์ และในรอบปีบัญชีของสามปีสุดท้ายก่อนวันสิ้นอายุโครงการจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์
ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2546
(นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล)
เลขาธิการ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ