หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนและการทำประกันภัยความรับผิดของบริษัทจัดการ

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday January 21, 2005 15:02 —ประกาศ ก.ล.ต.

                    ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กน. 13/2548
เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำรงความเพียงพอของ
เงินกองทุนและการทำประกันภัยความรับผิดของบริษัทจัดการ
_________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 มาตรา 97 มาตรา 109 มาตรา 117 มาตรา 143
แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และมาตรา 133 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กน. 41/2543เรื่อง การกำหนดความเพียงพอของเงินกองทุนหมุนเวียน หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนหมุนเวียน หลักประกัน หรือสินทรัพย์สภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทจัดการ และข้อกำหนดของบริษัทจัดการ ลงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2543
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“กฎหมายหลักทรัพย์” หมายความว่า กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนรวม หรือกองทุนส่วนบุคคล
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” หมายความว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
“บริษัทจัดการ” หมายความว่า บริษัทจัดการกองทุนรวม และบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล
“บริษัทจัดการกองทุนรวม” หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวม
“บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล” หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล
“ผู้บริหาร” หมายความว่า กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทจัดการ
“ลูกค้า” หมายความว่า บุคคลที่มอบหมายให้บริษัทจัดการจัดการกองทุนส่วนบุคคล
“ส่วนของผู้ถือหุ้น” หมายความว่า ส่วนของผู้ถือหุ้นที่ปรากฏในงบการเงินของบริษัทจัดการ ซึ่งมีวิธีการคำนวณตามมาตรฐานการบัญชี
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หมวด 1
บริษัทจัดการกองทุนรวม
ข้อ 4 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำรงความเพียงพอของเงินกองทุน ณ วันสุดท้ายของแต่ละเดือน โดยการดำรงส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านบาท
ข้อ 5 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมจัดให้มีการประกันภัยสำหรับความรับผิดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจหรือการปฏิบัติงานของบริษัทจัดการกองทุนรวม ผู้บริหาร และพนักงานตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของทุกกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการ ณ วันทำการสุดท้ายก่อนวันทำสัญญาประกันภัยดังกล่าว ไม่เกินสองหมื่นห้าพันล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจัดการกองทุนรวมต่ำกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดังกล่าวจัดทำประกันภัยในวงเงินไม่น้อยกว่าส่วนต่างของเงินจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทหักด้วยมูลค่าของส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจัดการกองทุนรวมนั้น
(2) ในกรณีที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของทุกกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการ ณ วันทำการสุดท้ายก่อนวันทำสัญญาประกันภัยดังกล่าว มากกว่าสองหมื่นห้าพันล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจัดการกองทุนรวมต่ำกว่าสองร้อยยี่สิบล้านบาท ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดังกล่าวจัดทำประกันภัยในวงเงินไม่น้อยกว่าส่วนต่างของเงินจำนวนสองร้อยยี่สิบล้านบาทหักด้วยมูลค่าของส่วนของ
ผู้ถือหุ้นของบริษัทจัดการกองทุนรวมนั้น
ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนรวมมีการจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่เป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ด้วย ให้คำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของทุกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรวมเข้าในมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมตามวรรคหนึ่งด้วย
ข้อ 6 ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนรวมมีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าสามสิบล้านบาทแต่ไม่น้อยกว่ายี่สิบล้านบาท ณ วันสุดท้ายของเดือนใด ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดังกล่าวปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) รายงานส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสำนักงานภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรืออาจรู้ว่าส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าจำนวนดังกล่าว
(2) จัดทำแผนการปรับปรุงเพื่อให้มีส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านบาท และให้ยื่นต่อสำนักงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรืออาจรู้ว่าส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าจำนวนดังกล่าว เว้นแต่ก่อนพ้นกำหนดเวลา บริษัทจัดการกองทุนรวมสามารถเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นให้เป็นไปตามจำนวนดังกล่าวได้
(3) ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนการปรับปรุงที่ได้ยื่นต่อสำนักงานตาม (2) และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว ตลอดจนรายงานส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันสุดท้ายของเดือนต่อสำนักงานภายในวันทำการที่เจ็ดของเดือนถัดไป ทั้งนี้ จนกว่าบริษัทจัดการกองทุนรวมจะมีส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านบาท
ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมแจ้งต่อสำนักงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมนั้นสามารถปรับปรุงส่วนของผู้ถือหุ้นได้โดยมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านบาท
ข้อ 7 ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนรวมไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนตามข้อ 4 ได้ ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) รายงานต่อสำนักงานภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรืออาจรู้ถึงการไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนดังกล่าว
(2) เปลี่ยนให้บริษัทจัดการกองทุนรวมรายอื่นเข้าจัดการกองทุนรวมหรือโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ตามวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อ 8 ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่บริษัทจัดการกองทุนรวมรู้หรืออาจรู้ถึงการไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนดังกล่าว เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและสมควร สำนักงานอาจพิจารณาขยายระยะเวลาออกไปได้ ทั้งนี้ การคัดเลือกบริษัทจัดการกองทุนรวมรายใหม่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ และในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทจัดการกองทุนรวมรายเดิมต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว
หากบริษัทจัดการกองทุนรวมไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการเลิกกองทุนรวม ทั้งนี้ ไม่รวมถึงโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
(3) ระงับการประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนรวมจนกว่าจะสามารถดำรงความเพียงพอ
ของเงินกองทุนตามประกาศนี้และได้รับอนุญาตจากสำนักงานให้ดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรเพื่อป้องกันมิให้มูลค่าทรัพย์สินของกองทุนรวมซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการได้รับความเสียหาย เพื่อใช้สิทธิเพื่อประโยชน์ของกองทุนรวมในฐานะที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ลงทุน หรือเพื่อเปลี่ยนตั๋วเงินที่ครบกำหนดไถ่ถอนกับบริษัทเงินทุนที่เป็นผู้ออกตั๋วเงินดังกล่าว
(4) กระทำการหรืองดเว้นการกระทำอื่นใดตามที่สำนักงานมีคำสั่ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเพียงพอของเงินกองทุนหรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อนี้สามารถดำเนินการได้อย่างลุล่วง หรือเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงจากการลงทุนของบริษัทจัดการกองทุนรวม
ข้อ 8 ในการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนรวมตามข้อ 7(2) ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ขอรับความเห็นชอบจากสำนักงาน
(2) ขอมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งคิดตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุนรวมนั้น
ข้อ 9 ให้บริษัทจัดการกองทุนรวมดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้มีรายละเอียดของโครงการจัดการกองทุนรวมเกี่ยวกับการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนรวมตามข้อ 7(2) โดยให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
หมวด 2
บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล
ข้อ 10 ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลดำรงความเพียงพอของเงินกองทุน ณ วันสุดท้ายของแต่ละเดือน ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ด้วย ให้ดำรงส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านบาท
(2) ในกรณีของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งไม่ได้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้ดำรงส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท
(3) ในกรณีของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มีการกำกับดูแลฐานะตามกฎหมายอื่นหรือที่ต้องดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิตามกฎหมายหลักทรัพย์อยู่แล้ว ให้ดำรงเงินกองทุนและเงินสำรองไม่น้อยกว่าหลักเกณฑ์ของกฎหมายอื่นหรือกฎหมายหลักทรัพย์นั้น
ข้อ 11 ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ด้วยจัดให้มีการประกันภัยสำหรับความรับผิดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจหรือการปฏิบัติงานของบริษัทจัดการ ผู้บริหาร และพนักงาน โดยให้นำความในข้อ 5 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ความในวรรคหนึ่งมิให้นำมาใช้บังคับกับบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มีการกำกับดูแลฐานะตามกฎหมายอื่นหรือที่ต้องดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิตามกฎหมายหลักทรัพย์อยู่แล้ว
ข้อ 12 ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่ตามข้อ 10(1) และ (2) ปฏิบัติตามข้อ 6 วรรคหนึ่ง โดยอนุโลม
(1) บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ด้วย มีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าสามสิบล้านบาทแต่ไม่น้อยกว่ายี่สิบล้านบาท ณ วันสุดท้ายของเดือนใด
(2) บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งไม่ได้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าสิบห้าล้านบาทแต่ไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท ณ วันสุดท้ายของเดือนใด
ข้อ 13 เมื่อบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลปรับปรุงส่วนของผู้ถือหุ้นได้ตามจำนวนดังต่อไปนี้ ให้แจ้งต่อสำนักงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลนั้นสามารถปรับปรุงส่วนของผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้
(ก) ไม่ต่ำกว่าสามสิบล้านบาท ในกรณีของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ด้วย
(ข) ไม่ต่ำกว่าสิบห้าล้านบาท ในกรณีของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลซึ่งไม่ได้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
ข้อ 14 ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนตามข้อ 10 ได้ ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) รายงานต่อสำนักงานภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลรู้หรืออาจรู้ถึงการไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนดังกล่าว
(2) รายงานให้ลูกค้าทราบถึงการไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนภายในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลรู้หรืออาจรู้ถึงการไม่สามารถดำรงความเพียงพอของเงินกองทุนดังกล่าว
(3) ห้ามมิให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลทำสัญญารับจัดการกองทุนส่วนบุคคลกับลูกค้ารายใหม่ หรือยอมให้ลูกค้าเพิ่มเงินทุนของกองทุนส่วนบุคคล หรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อความในสัญญากับลูกค้ารายเดิมอันอาจส่งผลกระทบต่อความเพียงพอของเงินกองทุน แต่ไม่รวมถึง
(ก) การรับบริหารเงินสะสมและเงินสมทบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วในขณะนั้น และ
(ข) การจ่ายเงินให้แก่สมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สิ้นสมาชิกภาพ
(4) หากบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลได้รับแจ้งจากลูกค้าว่าประสงค์จะเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลเป็นรายอื่น ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลเปลี่ยนให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลรายอื่นเข้าจัดการกองทุนส่วนบุคคล ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากลูกค้า ทั้งนี้ ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลรายเดิมเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว
(5) กระทำการหรืองดเว้นการกระทำอื่นใดตามที่สำนักงานมีคำสั่ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเพียงพอของเงินกองทุนหรือการปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อนี้สามารถดำเนินการได้อย่างลุล่วง หรือเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงจากการลงทุนของบริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคล
ประกาศ ณ วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2548
(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
-ยก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ