การออกใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ข่าวกฏหมายและประกาศ Monday October 11, 2004 14:29 —ประกาศ ก.ล.ต.

ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กย. 49/2547 เรื่อง การออกใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และสำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า __________________________________ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 มาตรา 9 มาตรา 54 วรรคสาม และมาตรา 75 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ในประกาศนี้ "ศูนย์ซื้อขายสัญญา" หมายความว่า ศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป "สำนักหักบัญชีสัญญา" หมายความว่า สำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป "บริษัทใหญ่" หมายความว่า (1) นิติบุคคลที่ถือหุ้นในผู้ขอใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด (2) นิติบุคคลที่ถือหุ้นในนิติบุคคลตาม (1) ไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของนิติบุคคลนั้น "สำนักงาน ก.ล.ต." หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป หมวด 1 การออกใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญา ข้อ 3 ผู้ขอใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัดและมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทในวันที่ยื่นคำขอ และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทก่อนวันที่ได้รับใบอนุญาต (2) แสดงได้ว่าจะมีความสามารถในการประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. และประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญา (3) มีผู้บริหารที่มีความซื่อสัตย์สุจริต โดยพิจารณาจากประวัติการทำงาน รวมทั้งมีความสามารถและประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบการ (4) แสดงได้ว่าจะมีระบบงานและบุคลากรที่มีความพร้อมในการประกอบการ และ (5) แสดงได้ว่าสำนักหักบัญชีสัญญาซึ่งจะให้บริการระบบการชำระหนี้ในศูนย์ซื้อขายสัญญาที่จะจัดตั้งขึ้น ได้รับใบอนุญาตหรืออยู่ระหว่างยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. ข้อ 4 ให้ผู้ที่ประสงค์จะขอใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญายื่นคำขอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามแบบ 54-1 และเอกสารหลักฐานประกอบคำขอท้ายประกาศนี้ พร้อมด้วยสำเนาสองชุดต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ข้อ 5 ในการขอใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญา ผู้ขอใบอนุญาตต้องยินยอมและอำนวยความสะดวกให้บุคคลที่สำนักงาน ก.ล.ต. มอบหมาย เข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจหรือสถานที่ตั้งของผู้ขอใบอนุญาต หรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฐานะการเงิน การดำเนินงาน สินทรัพย์ หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้ขอใบอนุญาต ข้อ 6 ให้สำนักงาน ก.ล.ต. เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาและสั่งการเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับคำขอและเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน คณะกรรมการ ก.ล.ต. จะพิจารณาและสั่งการเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตามวรรคหนึ่ง ใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาให้เป็นไปตามแบบท้ายประกาศนี้ ข้อ 7 ในการพิจารณาคำขอตามข้อ 6 นอกจากการพิจารณารายละเอียดที่ปรากฏในคำขอและเอกสารหลักฐานประกอบคำขอแล้ว ให้สำนักงาน ก.ล.ต. มีอำนาจสั่งให้ผู้ขอใบอนุญาตมาชี้แจงหรือส่งเอกสารหลักฐานใด ๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาตามที่เห็นสมควรและภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ และในกรณีเช่นว่านี้ มิให้นับระยะเวลาตั้งแต่วันที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีคำสั่งดังกล่าวจนถึงวันที่ผู้ขอใบอนุญาตได้มาชี้แจงหรือได้ส่งเอกสารหลักฐานที่ถูกต้องครบถ้วนแล้วรวมเข้ากับการนับระยะเวลาตามข้อ 6 ข้อ 8 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเป็นศูนย์ซื้อขายสัญญาจะเริ่มประกอบการดังกล่าวได้ต่อเมื่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบแล้วเห็นว่า (1) ผู้ได้รับใบอนุญาตได้จัดให้มีระบบงานและบุคลากรที่มีความพร้อมในการประกอบการตามที่ได้แสดงไว้ในคำขอ เว้นแต่กรณีที่มีความแตกต่างกันเพียงวิธีการซึ่งมิได้ทำให้ระบบงานและบุคลากรที่ได้แสดงไว้เปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ (2) กฎเกณฑ์ของศูนย์ซื้อขายสัญญาที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3(2) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว และ (3) สำนักหักบัญชีสัญญาที่จะให้บริการระบบการชำระหนี้ในศูนย์ซื้อขายสัญญาได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. และสามารถประกอบการได้ตามกฎหมาย หมวด 2 การออกใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญา ข้อ 9 ผู้ขอใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดและมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทในวันที่ยื่นคำขอ และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทก่อนวันที่ได้รับใบอนุญาต (2) แสดงได้ว่าจะมีแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับการประกอบกิจการและความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาไม่น้อยกว่าห้าร้อยล้านบาทโดยอาจประกอบด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นของสำนักหักบัญชีสัญญา ทรัพย์สินที่สำนักหักบัญชีสัญญามีไว้เพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือข้อผูกพันเป็นลายลักษณ์อักษรและสามารถบังคับได้ตามกฎหมายจากบริษัทใหญ่ในการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินแก่สำนักหักบัญชีสัญญาที่จะจัดตั้งขึ้น โดยบริษัทใหญ่ต้องกันทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องและมีความเสี่ยงต่ำไว้เพื่อการปฏิบัติตามข้อผูกพันดังกล่าว (explicit guarantee) (3) แสดงได้ว่าจะมีความสามารถในการประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 และเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. และประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญา (4) มีผู้บริหารที่มีความซื่อสัตย์สุจริต โดยพิจารณาจากประวัติการทำงาน รวมทั้งมีความสามารถและประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบการ และ (5) แสดงได้ว่าจะมีระบบงานและบุคลากรที่มีความพร้อมในการประกอบการ ข้อ 10 ให้ผู้ที่ประสงค์จะขอใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญายื่นคำขอต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามแบบ 75-1 และเอกสารหลักฐานประกอบคำขอท้ายประกาศนี้ พร้อมด้วยสำเนาสองชุดต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ข้อ 11 ให้นำความในข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 แห่งประกาศนี้มาใช้บังคับกับการขอใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาโดยอนุโลม ข้อ 12 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการเป็นสำนักหักบัญชีสัญญาจะเริ่มประกอบการดังกล่าวได้ต่อเมื่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบแล้วเห็นว่า (1) ผู้ได้รับใบอนุญาตได้จัดให้มีแหล่งเงินทุน ระบบงาน และบุคลากรที่มีความพร้อมในการประกอบการตามที่ได้แสดงไว้ในคำขอ เว้นแต่กรณีที่มีความแตกต่างกันเพียงวิธีการซึ่งมิได้ทำให้ระบบงานและบุคลากรที่ได้แสดงไว้เปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ และ (2) กฎเกณฑ์ของสำนักหักบัญชีสัญญาที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อ 9(3) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว ประกาศ ณ วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2547 (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ