ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กก.21/2537 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการจัดการและการชำระบัญชี ของกองทุนรวมที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดเป็นสถาบันการเงิน ————————————————— อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 มาตรา 117 และมาตรา 130 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ในประกาศนี้ "กองทุนรวม" หมายความว่า กองทุนรวมที่มีผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมด เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน "บริษัทหลักทรัพย์" หมายความว่า บริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภทการจัดการกองทุนรวม "ทรัพย์สิน" หมายความ รวมถึงหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ด้วย "สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อ 2. ในกรณีเลิกกองทุนรวม เพราะเหตุครบอายุโครงการ ให้บริษัทหลักทรัพย์จำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม เพื่อรวบรวมเป็นเงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออก โดยบริษัทเงินทุนให้เสร็จสิ้นก่อนวันเลิกกองทุนรวม ในกรณีเลิกกองทุนรวม เพราะเหตุอื่นใด ที่มิใช่เหตุครบอายุโครงการ ให้ผู้ชำระบัญชีจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม เพื่อรวบรวมเป็นเงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทเงินทุน โดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ผู้ชำระบัญชีจะแต่งตั้งผู้ที่มีความสามารถในการจัดการลงทุนให้เป็นผู้จำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวมแทนก็ได้ ข้อ 3. เมื่อเลิกกองทุนรวมแล้ว ให้บริษัทหลักทรัพย์ส่งมอบบัญชีเอกสารหลักฐานต่าง ๆ และงบการเงินของกองทุนรวม ณ วันเลิกกองทุนรวมที่ผ่านการตรวจสอบ และแสดงความเห็นจากผู้สอบบัญชีของกองทุนรวม และรับรอง โดยบริษัทหลักทรัพย์นั้นเอง รวมทั้งดำเนินการให้ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวม ส่งมอบบัญชีและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของกองทุนรวมนั้น ให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในสิบห้าวันทำการ นับแต่วันเลิกกองทุนรวม ข้อ 4. ให้ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) เก็บรวบรวม และรับทรัพย์สินของกองทุนรวม หรือที่กองทุนรวมมีสิทธิจะได้รับจากบุคคลอื่นรวมทั้งจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวมด้วย (2) ชำระหนี้ในนามกองทุนรวม และชำระค่าธรรมเนียม ค่าภารติดพัน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งต้องเสียในการชำระบัญชีของกองทุนรวม (3) แบ่งเงินที่เหลืออยู่ภายหลังการชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่มีชื่อปรากฎในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันเลิกกองทุนรวม (4) จดทะเบียนเลิกกองทุนรวมกับสำนักงาน (5) ดำเนินการโอนทรัพย์สินคงค้างให้แก่สำนักงาน (6) ดำเนินการอย่างอื่นที่จำเป็น เพื่อให้การชำระบัญชีเสร็จสิ้น การชำระค่าธรรมเนียม ค่าภารติดพัน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งต้องเสียในการชำระบัญชีของกองทุนรวมตาม (2) ให้ชำระก่อนการชำระหนี้รายอื่น ข้อ 5. ให้ผู้ชำระบัญชีฝากทรัพย์สินของกองทุนรวมไว้กับผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมนั้น โดยผู้ชำระบัญชีเป็นผู้สั่งรับและจ่ายทรัพย์สินดังกล่าว ข้อ6. ภายในเจ็ดวันทำการนับแต่วันที่ผู้ชำระบัญชีได้รับมอบบัญชีและเอกสารหลักฐานของกองทุนรวมตามข้อ 3 ให้ผู้ชำระบัญชีดำเนินการดังต่อไปนี้ (1) ประกาศการเลิกกองทุนรวม โดยทางหนังสือพิมพ์แห่งท้องถิ่นอย่างน้อยหนึ่งฉบับ (2) แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าหนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎในบัญชี และเอกสารหลักฐานของกองทุนรวมยื่นคำทวงหนี้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่เจ้าหนี้ได้รับหนังสือแจ้ง (3) แจ้งเป็นหนังสือให้ลูกหนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎในบัญชี และเอกสารหลักฐานของกองทุนรวมชำระหนี้ แก่ผู้ชำระบัญชีภายในเวลาอันสมควร ในการส่งหนังสือแจ้งให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ตาม (2) และ (3) ให้ผู้ชำระบัญชีส่งทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับ หรือส่งโดยวิธีอื่นใดที่มีหลักฐานการตอบรับ ข้อ 7. ถ้าเจ้าหนี้ของกองทุนรวมมิได้ยื่นคำทวงหนี้แก่ผู้ชำระบัญชี ให้ผู้ชำระบัญชีวางเงินเท่าจำนวนหนี้ตามที่ปรากฎในบัญชี และเอกสารหลักฐานของกองทุนรวม และเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมไว้ ณ สำนักงานวางทรัพย์ ตามกฎหมาย กฎข้อบังคับ และระเบียบเกี่ยวกับการวางทรัพย์ และให้ผู้ชำระบัญชีแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าหนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎในบัญชี และเอกสารหลักฐานของกองทุนรวม ทราบถึงการวางเงิน ดังกล่าว โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ในการนี้ ผู้ชำระบัญชีต้องดำเนินการใด ๆ ตามความจำเป็น เพื่อให้สำนักงานเป็นผู้มีสิทธิถอนเงินที่วางไว้ ซึ่งเจ้าหนี้มิได้เรียกเอาภายในสิบปี นับแต่วันที่ได้รับคำบอกกล่าวการวางเงิน ในฐานะที่เป็นทรัพย์สินคงค้างของกองทุนรวม รวมทั้งรับเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมส่วนที่เหลือคืน ข้อ 8. เมื่อผู้ชำระบัญชีได้ชำระหนี้หรือกันเงินเพื่อการชำระหนี้ทั้งหมดของกองทุนรวมแล้ว ให้ผู้ชำระบัญชี แบ่งเงินส่วนที่เหลือนั้น ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามส่วนของหน่วยลงทุน ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนแต่ละรายถืออยู่ตามหลักฐานที่ปรากฎในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันเลิกกองทุนรวม ข้อ 9. ผู้ชำระบัญชีต้องชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันเลิกกองทุนรวม และต้องจดทะเบียนเลิกกองทุนรวม ต่อสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ชำระบัญชีเสร็จสิ้น ทั้งนี้ให้ผู้ชำระบัญชีจัดส่งรายงานผลการชำระบัญชีต่อสำนักงาน ตามแบบรายงานที่แนบท้ายประกาศนี้ และจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้ ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน (1) สำเนางบการเงินสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันถัดจากวันที่เลิกกองทุนรวม จนถึงวันที่ชำระบัญชีเสร็จสิ้น ซึ่งประกอบด้วย (ก) งบรายรับและรายจ่าย (ข) งบรายได้และค่าใช้จ่าย (ค) งบแสดงส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุน (2) เอกสารอื่นซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้ (ก) จำนวนเงินที่จ่ายคืนผู้ถือหน่วยลงทุนคิดเป็นต่อหน่วยลงทุน (ข) วันที่จดทะเบียนเลิกกองทุนรวมกับสำนักงาน ในกรณีที่ผู้ชำระบัญชีไม่สามารถชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ชำระบัญชี ทำหนังสือขอผ่อนผันระยะเวลาการชำระบัญชีต่อสำนักงาน พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลในการขอผ่อนผัน ในกรณีที่สำนักงานผ่อนผันระยะเวลาการชำระบัญชี สำนักงานอาจสั่งให้ผู้ชำระบัญชีดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเร่งรัดการชำระบัญชีตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ ให้ผู้ชำระบัญชีส่งรายงานการชำระบัญชี พร้อมแถลงความเป็นไปในการชำระบัญชีให้สำนักงานทราบเป็นรายเดือน จนกว่าการชำระบัญชีจะเสร็จสิ้น ข้อ10.เมื่อสำนักงานรับจดทะเบียนเลิกกองทุนรวมแล้ว ให้ผู้ชำระบัญชีส่งมอบบัญชี และเอกสารหลักฐานทั้งหมดของกองทุนรวม ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ที่รับจัดการกองทุนรวมนั้นเก็บรักษา เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี นับแต่วันจดทะเบียนเลิกกองทุนรวม ข้อ 11 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2537 (นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์) ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์————————————————————————————————————————————————————————————————————————— แบบรายงานผลการชำระบัญชี ทำที่ ............................ วันที่ ............................ เรียน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เรื่อง การรายงานผลการชำระบัญชีของกองทุนรวม ........................ ด้วยข้าพเจ้า ........................................................ในฐานะผู้ชำระบัญชีของกองทุนรวม .................. ขอรายงานผลการชำระบัญชีกองทุนรวมต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ดังมีข้อความต่อไปนี้ 1. ชื่อกองทุนรวม .................................................... 2. อายุโครงการ ............ ปี เลิกกองทุนรวมเมื่อวันที่ ................... สาเหตุที่เลิกกองทุนรวม.............................................. 3. ข้าพเจ้าได้ดำเนินการตามหน้าที่แล้ว ดังต่อไปนี้ 3.1 ประกาศการเลิกกองทุนรวมทางหนังสือพิมพ์ ........................... ลงวันที่ ............................... 3.2 ส่งหนังสือถึงเจ้าหนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎในบัญชีและเอกสารหลักฐานของกองทุนรวม ให้ ยื่นคำทวงหนี้ 3.3 ส่งหนังสือถึงลูกหนี้ ซึ่งมีชื่อปรากฎในบัญชีและเอกสารหลักฐานของกองทุนรวม ให้ ชำระหนี้แก่ผู้ชำระบัญชี 3.4 วางเงินเท่าจำนวนหนี้ตามที่ปรากฎในบัญชีและเอกสารหลักฐานของกองทุนรวม และ เงินประกันค่าฤชาธรรมเนียม จำนวน .............. บาท ณ สำนักงานวางทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการวางทรัพย์สิน เมื่อวันที่ ..... และ ได้แจ้งสำนักงานวางทรัพย์แล้วว่า หากเจ้าหนี้มิได้เรียกเอาเงินที่วางไว้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่เจ้าหนี้ได้รับหนังสือแจ้ง ให้สำนักงานเป็นผู้มีสิทธิถอนเงินที่วาง ไว้นั้น ในฐานะที่เป็นทรัพย์สินคงค้างของกองทุนรวม และรับเงินประกันค่าฤชา ธรรมเนียมที่เหลือคืน 3.5 แบ่งเงินที่เหลือจากภายหลังการชำระหนี้หรือการกันเงินเพื่อการชำระหนี้แล้ว จำนวนทั้งสิ้น..............บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน ผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันเลิกกองทุนรวมเป็นเงิน............บาท/หน่วยลงทุน พร้อมนี้ได้แนบเอกสารหรือฐานะเกี่ยวกับการชำระบัญชีดังต่อไปนี้มาด้วยแล้ว (1) งบดุล ณ วันเลิกกองทุนรวมวันที่............................... (2) รายละเอียดสินทรัพย์และหนี้สิน (3) รายละเอียดการจำหน่ายทรัพย์สิน (4) รายละเอียดการรับชำระหนี้จากลูกหนี้ (5) รายละเอียดการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ (6) ใบรับหรือหลักฐานการรับวางเงินที่สำนักงานวางทรัพย์เป็นผู้ออก (ถ้ามี) ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อความข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ลงชื่อ...................................... ( ) ผู้ชำระบัญชีกองทุนรวม