ประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เรื่อง คุณสมบัติของผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวม ——————————————————————————— อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (1) ผู้ดูแลผลประโยชน์ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน หรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ต้องมีเงินกองทุนสุทธิไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมสุทธิไม่ต่ำกว่าห้าพันล้านบาท ผู้ดูแลผลประโยชน์ที่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทอื่นใดนอกจากประเภทการจัดการกองทุนรวมตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และมิใช่สถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายอื่นต้องมีเงินกองทุนสุทธิไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมสุทธิไม่ต่ำกว่าเจ็ดร้อยห้าสิบล้านบาท (2) มีกำไรที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีหลังสุดก่อนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวม เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นและสมควรซึ่งได้รับการผ่อนผันจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (3) มีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานในการเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมแยกต่างหากจากหน่วยงานอื่น และมีระบบควบคุมภายในที่สามารถป้องกันการนำข้อมูลไปใช้โดยมิชอบอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน (4)ไม่เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดตั้ง และจัดการกองทุนรวมที่ตนเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวที่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังต่อไปนี้ถืออยู่ให้นับเป็นหุ้นของผู้ดูแลผลประโยชน์ด้วย (ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ดูแลผลประโยชน์นั้น เป็นหุ้นส่วน (ข) ห้างหุ้นส่วนจำกัดที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ดูแลผลประโยชน์นั้น เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด หรือเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดรวมกันเกินร้อยละสิบของกองทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น (ค) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ผู้ดูแลผลประโยชน์ กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ดูแลผลประโยชน์นั้นหรือห้างหุ้นส่วนตาม (ก) หรือ (ข) ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด (ง)บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ผู้ดูแลผลประโยชน์ กรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ดูแลผลประโยชน์นั้น หรือห้างหุ้นส่วนตาม (ก) หรือ (ข) หรือบริษัทตาม (ค) ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละสามสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด (จ) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของผู้ดูแลผลประโยชน์นั้น เป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ (5) ไม่มีผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละสิบของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทั้งในผู้ดูแลผลโยชน์และในบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมที่ตนเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ (6) ไม่มีกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการ เป็นกรรมการ ผู้จัดการหรือบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการของบริษัทหลักทรัพย์ที่จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมที่ตนเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ ในกรณีที่ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมขาดคุณสมบัติข้อหนึ่งข้อใดตามวรรคหนึ่งให้บริษัทหลักทรัพย์ดำเนินการให้ผู้ดูแลผลประโยชน์จัดการแก้ไขให้ถูกต้องภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่บริษัทหลักทรัพย์ตรวจพบเองหรือปรากฎจากการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เว้นแต่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จะสั่งการเป็นอย่างอื่น และให้บริษัทหลักทรัพย์แจ้งการแก้ไขดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบภายในสามวันนับแต่วันที่ได้แก้ไขเสร็จสิ้น ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 (นายเอกกมล คีรีวัฒน์) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.