ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 08 ตุลาคม 2553 - 14 ตุลาคม 2553
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนมากบริเวณ ด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และอากาศจะเย็นลง ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน สภาพอากาศค่อนข้างจะแปรปรวน เกษตรกรจึงควรรักษาสุขภาพ ให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ในช่วงต่อไปปริมาณฝนจะลดลง สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำขณะพืชเจริญเติบโตในระยะต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอากาศจะเย็นลง ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอากาศจะเย็นลง ระยะนี้สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในช่วงปลายฤดูฝน ควรเลือกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับกำบังลมหนาวให้กับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 8- 10 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึง กระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะอาจจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชในช่วงปลายฤดูฝน ควรสำรองน้ำเอาไว้ให้พืชในระยะต่อไป อนึ่ง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ชาวสวนผลไม้ควรตัดแต่งกิ่ง โดยเฉพาะ กิ่งน้ำค้าง กิ่งที่มีโรคและแมลงเข้าทำลาย เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นภายในสวน และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ ทางด้านการเกษตร เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝน ฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนทางฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 8-10 ต.ค. มีฝน ฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย และในช่วงวันที่ 11-14 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากระยะต่อไปบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรเตรียมเฝ้าระวัง สภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร สำหรับพื้นที่เพาะปลูกพืชสวนควรดูแลให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นที่สะสมภายในสวน อนึ่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74