พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 12 มกราคม 2554 - 18 มกราคม 2554
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา และมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. ขอให้ประชาชนในภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไประมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือในอ่าวไทยควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. มีหมอกในตอนเช้า อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา
และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
และมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง
และมีฝนหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค.
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12-15 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา
และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74