ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 28 มีนาคม 2554 - 03 เมษายน 2554
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาว โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ถึงเป็นแห่งๆ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ระยะนี้อากาศแปรปรวน เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 28-31 มี.ค. อากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-29 องศาเซลเซียส ลมะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ระยะนี้อากาศแปรปรวน เกษตรกรควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันจะอ่อนแอและเป็นโรค ได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 3 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่วนผู้ที่ต้องการเตรียมดินปลูกพืชรุ่นใหม่ควรตรวจสอบความชื้นในดินเมื่อมีเพียงพอแล้วค่อยลงมือปลูกพืช
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยกระจาย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค.— 3 เม.ย. อุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรผูกยึดกิ่งและค้ำยันลำต้นไม้ผลให้แข็งแรง เพื่อป้องกันลำต้นโค่นล้ม และกิ่งฉีกหักเมื่อมีฝนฟ้าคะนองและลมแรง ส่วนผู้ที่ต้องการเตรียมดินปลูกพืชรุ่นใหม่ควรตรวจสอบความชื้นในดินเมื่อมีเพียงพอแล้วค่อยลงมือปลูกพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 120-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 มี.ค.— 3 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 มี.ค. — 3 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. ขอให้เกษตรกรบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ในช่วงที่มีฝนตกชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ได้ให้ไว้ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74