พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 11 เมษายน 2554 - 17 เมษายน 2554
การคาดหมาย ในระยะนี้ บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนลดน้อยลงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางด้านตะวันออก
ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองแห่งๆถึงกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
โดยในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้จะพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางตอนล่าง
ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่งๆถึงกระจาย
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ อากาศในหลายพื้นที่ของประเทศไทยจะร้อนขึ้นในตอนกลางวัน จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่โล่งกลางแจ้งหรือหาเครื่องป้องกันความร้อน เพื่อบรรเทาแสงแดดที่ส่องลงมาโดยตรง โดยในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. อากาศร้อนทางตอนบนของภาคกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศา
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. อากาศจะร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74