พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2555 - 28 มกราคม 2555

ข่าวทั่วไป Monday January 23, 2012 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2555 - 28 มกราคม 2555

การคาดหมาย ลมตะวันออกเฉียงใต้ได้พัดพาความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 23-28 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ต่อจากนั้นจะมีผลกระทบกับภาคอื่นๆ

ข้อควรระวัง ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 22-23 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 22-28 ม.ค. มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ทางตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศา

ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา

สำหรับบริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 22-23 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา

ทางตอนบนอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา

สำหรับบริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 22-24 ม.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 22-23 ม.ค.มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 24-28 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-14 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา

ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 22-24 ม.ค. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 25-28 ม.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ