พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 สิงหาคม 2557 - 21 สิงหาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday August 18, 2014 09:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 สิงหาคม 2557 - 21 สิงหาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
  • ส่วนลำไยที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่ง และใส่ปุ๋ยเพื่อให้ต้นฟื้นตัวได้เร็ว มีเวลาพักตัวได้นานขึ้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้ผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นกองอยู่ในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้รั่วซึม พื้นคอกอย่าให้ชื้นแฉะ ป้องกันสัตว์เปียกชื้น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 16-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาคและด้านตะวันออกของภาค ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงที่มีฝนตกทำให้อากาศมีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้ และโรคใบขีดโปร่งแสง เป็นต้น รวมทั้งป้องกันการระบาดของหอยเชอรี่ที่ลอยมากับน้ำในช่วงที่มีฝนตกหนักโดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหลเข้านาแล้วจับหอยไปทำลาย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลพื้นคอกไม่ให้ชื้นแฉะหลังคาอย่าให้รั่วซึมป้องกันสัตว์เลี้ยงเปียกชื้นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรกหากมีความจำเป็นต้องลุยน้ำควรสวมรองเท้าบูตเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากด้านตะวันตกของภาค ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูก ทำให้พืชเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราได้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรยกพื้นคอกสัตว์ให้สูง รวมทั้งเตรียมสถานที่สำหรับอพยพสัตว์เลี้ยง และอาหารสัตว์ไปไว้ในที่สูง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 16-19 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นพืชตายได้
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 16-19 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ผู้ที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำลายผลที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ หากพบควรรีบควบคุมก่อนจะลุกลามไปยังผลอื่นๆ
  • สำหรับชาวสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคราสีชมพู ในยางพารา โรคราสนิม และโรคเน่าคอดินในกาแฟ ตลอดจนโรคยอดเน่า และโรคทะลายเน่า ในปาล์มน้ำมัน เป็นต้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 16-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 19-21 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ในระยะนี้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันออก ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับชาวสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคราสีชมพู ในยางพารา โรคราสนิม และโรคเน่าคอดินในกาแฟ ตลอดจนโรคยอดเน่า และโรคทะลายเน่า ในปาล์มน้ำมัน เป็นต้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ