พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 15 เมษายน 2558 - 21 เมษายน 2558

ข่าวทั่วไป Thursday April 16, 2015 08:21 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 15 เมษายน 2558 - 21 เมษายน 2558

ภาคเหนือ

ในวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนและแสงแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและระบายอากาศได้ดี พร้อมทั้งดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันโรคลมแดด
  • สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วย
  • สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล ตลอดจนพืชผัก ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชทรุดโทรม ผลผลิตเสียหาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในวันที่ 15-16 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วย
  • สำหรับน้ำระเหยมีมากผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงหากปริมาณน้ำมีน้อยจะทำให้สัตว์น้ำอยู่กันแออัด ส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายรวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มอ๊อกซิเจนในน้ำ
  • สภาพอากาศที่ร้อน ฝนตกน้อย ประกอบกับมีน้ำระเหยมาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคกลาง

ในวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีอากาศร้อนและแสงแดดจัด เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากมีความจำเป็นควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดและระบายอากาศได้ดี พร้อมทั้งดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันโรคลมแดด
  • เนื่องจากปริมาณน้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
  • สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร ในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • สำหรับพื้นที่สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆใน พืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
  • นอกจากนี้เกษตรกรควรวางแผนการจัดการน้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในวันที่ 15 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีลกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร -

  • สำหรับอากาศแห้งทางตอนบนของภาค เหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆใน พืชสวน และพืชผัก เกษตรกรจึงควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด ก่อนระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ส่วนบริเวณที่มีฝนตกทางตอนล่างของภาค เกษตรควรระวังและการระบาดศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อนและเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินและเจาะผล ทำให้ผลผลิตเสียหาย หากพบการระบาดควรรีบกำจัด
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในวันที่ 15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • สำหรับอากาศแห้งทางตอนบนของภาค เหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆใน พืชสวน และพืชผัก เกษตรกรจึงควรหมั่นสำรวจหากพบศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด ก่อนระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ส่วนบริเวณที่มีฝนตกทางตอนล่างของภาค เกษตรควรระวังและการระบาดศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ และพืชผัก ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชทรุดโทรม ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อนและเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินและเจาะผล ทำให้ผลผลิตเสียหาย หากพบการระบาดควรรีบกำจัด
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15-16 เม.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ