พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 03 มิถุนายน 2558 - 09 มิถุนายน 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday June 3, 2015 15:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 03 มิถุนายน 2558 - 09 มิถุนายน 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 3-4 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 5-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนตก ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นเพิ่มมากขึ้น ชาวสวนผลไม้ และกาแฟ ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา และไม่ควรกองวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ไว้ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

-ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝน เพื่อไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่ปริมาณและการกระจายของฝนน้อย

  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อย่าให้อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จะเกิดกับสัตว์เลี้ยงในช่วงฤดูฝน เช่นโรคคอบวม โรคปากและเท้าเปื่อย ในสัตว์เท้ากีบ เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 3-4 มิ.ย. และ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

  • ฝนที่ตกในช่วงนี้จะเป็นผลดีต่อพืชไร่ที่อยู่ระยะเจริญเติบโต และช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งในมันสำปะหลัง แต่ในบางช่วงจะมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่ง ขณะฝนฟ้าคะนอง เพราะอาจจะได้รับอันตราย
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง อย่าให้อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จะเกิดกับสัตว์เลี้ยงในช่วงฤดูฝน เช่นโรคคอบวม โรคปากและเท้าเปื่อย ในสัตว์เท้ากีบ

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้แม้จะมีฝนตก แต่ในบางพื้นที่ปริมาณฝนยังมีน้อย เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ ควรมีแหล่งน้ำสำรองให้แก่พืชในระยะเจริญเติบโต เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำ ซึ่งจะทำให้ต้นชะงักการ เจริญเติบโต ผลผลิตลดลงได้

-ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝน เพื่อไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่ปริมาณและการกระจายของฝนน้อย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 3-4 มิ.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนตก สภาพอากาศชื้น ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งเพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรารวมทั้งใช้สารป้องกันเชื้อราทาบริเวณหน้ากรีดยาง
  • สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและขั้วผล แล้วทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งไม่ควรปล่อยผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรเตรียมทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกทางระบายน้ำ อย่าให้ตื้นเขินเพื่อให้ระบายน้ำออกได้สะดวก เนื่องจากในระยะครึ่งหลังของช่วง จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ส่วนทางฝั่งตะวันออกบางพื้นที่ยังมีฝนตกน้อยโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ ส่วนทางตอนล่างของภาคที่มีฝนตก ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายได้
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะที่ผ่านมาภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงนี้ยังคงมีฝนตกตลอดช่วง ชาวสวนไม้ผล กาแฟ และสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ