พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 03 มิถุนายน 2558 - 09 มิถุนายน 2558

ข่าวทั่วไป Friday June 5, 2015 15:12 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 มิถุนายน 2558 - 11 มิถุนายน 2558

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • เนื่องจากในระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรควรบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อยหรือฝนทิ้งช่วง
  • สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกในระยะที่ผ่านมาจะเป็นผลดีต่อพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล แต่เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ซึ่งจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืช ทำให้ ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
  • ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เช่น ลิ้นจี่ และมะม่วง เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่ง และใส่ปุ๋ย เพื่อให้ต้นฟื้นตัวได้เร็ว และมีเวลาพักตัวได้นานขึ้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-6 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 7-11 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่มีฝนตกในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ใน พืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • สำหรับเกษตรกรที่เตรียมพื้นที่เพาะปลูกเอาไว้สำหรับปลูกพืชในช่วงฤดูฝนนี้ เกษตรกรควรเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่มักระบาดในช่วงฤดูฝน
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบอาจป่วยเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับปลูกพืชในระยะนี้ ควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในช่วงฤดูฝน

-ระยะนี้จะมีฝนตกสลับกับอากาศร้อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง

  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหลังจากฝนตกเกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อให้น้ำผสมเป็นเนื้อเดียวกันป้องกันน้ำแยกชั้นกันระหว่างน้ำ ในระดับบนและน้ำในระดับล่าง และเป็นการเพิ่มออกซิเจนให้แก่น้ำ

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เช่น เงาะ ทุเรียน และลองกอง เป็นต้น เกษตรกรควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นตลอดจนเปลือกผลไม้ไปกำจัด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากเชื้อไฟทอปโธราซึ่งอาจจะลุกลามจากเปลือกและผลที่เน่าเสียไปสู่ต้นพืชได้ ทำให้ต้นพืชเสียหายและตายได้
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในแปลงปลูกนาน ทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกและขุดลอกคูคลองระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะเจาะผล และกัดกินผลทำให้ผลเสียหาย ผลผลิต ด้อยคุณภาพ
  • ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกพื้นที่ซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ และใช้น้ำที่กักเก็บไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย หรือฝนทิ้งช่วงในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกและขุดลอกคูคลองระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน น้ำไหลได้สะดวก
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะเจาะผล และกัดกินผลทำให้ผลเสียหาย ผลผลิต ด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ