พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2558 - 20 ธันวาคม 2558

ข่าวทั่วไป Monday December 14, 2015 14:27 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 14 ธันวาคม 2558 - 20 ธันวาคม 2558

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 15-19 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค. บริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเอง และสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
  • ในช่วงวันที่ 18 – 20 ธ.ค. บริเวณยอดดอยอาจมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
  • ช่วงที่มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้อุณหภูมิผิวน้ำและน้ำในระดับล่างแตกต่างกัน ผู้ที่เลี้ยงปลาควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิน้ำและเป็นการเพิ่มออกซิเจน รวมทั้งลดอาหารให้น้อยลง เพราะปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ส่งผลให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในวันที่ 15-19 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือนและทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้สัตว์ที่ไม่แข็งแรงป่วยและตายได้
  • สภาพอากาศที่แห้งและลมแรงทำให้น้ำระเหยมาก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดการปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง รวมทั้งลดอาหารให้น้อยลง เพราะช่วงที่อากาศหนาวเย็นสัตว์จะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ส่งผลให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยหลีกเลี่ยงการจุดไฟในบริเวณสวนหากมีความจำเป็นควรดับให้สนิท รวมทั้งระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยบริเวณที่อยู่อาศัย

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้าและมีหมอกในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 16-20 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ในระยะแรก หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-35 กม./ชม.

  • สัปดาห์นี้ทางตอนบนของภาคจะมีอากาศเย็นในตอนเช้าเกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับสภาพอากาศแห้งและลมแรงทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน
  • ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อายุการเก็บเกี่ยวสั้น โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว ซึ่งจะช่วยบำรุงดิน

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 16-20 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ หลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • สัปดาห์นี้สภาพอากาศแห้งและลมแรง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อายุการเก็บเกี่ยวสั้น และวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ในช่วงวันที่ 16-19 ธ.ค. คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ