พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 23 ธันวาคม 2558 - 29 ธันวาคม 2558

ข่าวทั่วไป Wednesday December 23, 2015 14:29 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 ธันวาคม 2558 - 29 ธันวาคม 2558

ภาคเหนือ

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23 - 29 ธ.ค. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณโดยทั่วไปมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำป็นส่วนใหญ่ โดยค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-10) ถึง (-20) มม. เว้นแต่ทางตอนบนของภาคบริเวณจังหวัดเชียงราย มีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (1) ถึง (10) มม. ซึ่งปริมาณฝนที่ตกมากกว่า ค่าการคายระเหยน้ำของพืช ส่วนทางตอนล่างของภาคบริเวณจังหวัดพิษณุโลก กำแพงเพชร และพิจิตร มีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-20) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีฝนบางแห่ง และมีปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้สมดุลย์น้ำมีค่าน้อยลง ทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ จนอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค พร้อมทั้งควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน สำหรับสมดุลน้ำที่ลดลงจะส่งผลดีต่อไม้ผลที่อยู่ในระยะเตรียมแทงช่อดอก เช่น ลิ้นจี่และลำไย หากมีความหนาวเย็นต่อเนื่องและยาวนาน จะทำให้พืชแตกตาดอกได้ดีในระยะต่อไป

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค.โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 26-29 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณโดยทั่วไปมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำป็นส่วนใหญ่ โดยค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-20) ถึง (-30) มม. เว้นแต่ทางตอนบนของภาคบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม รวมทั้งทางด้านตะวันออกตอนล่างของภาค บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ มีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-10) ถึง (-20) มม. ซึ่งปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่า ค่าการคายระเหยน้ำของพืช มีสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-20) ถึง (-30) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนบางแห่ง และมีปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตลดลง และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค.โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศา อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 27-29 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าการคายระเหยน้ำของพืช โดยมีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-20) ถึง (-30) มม. เว้นแต่ทางตอนบนของจังหวัด กาญจนบุรี มีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-10) ถึง (-20) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนบางแห่ง และมีปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรวางแผนการให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำพืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง และควรให้น้ำพืชในช่วงเย็น เพื่อลดอัตราการสูญเสียน้ำในการระเหย รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน

ภาคตะวันออก

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 23-26 ธ.ค. อากาศเย็นนตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในวันที่ 27-29 ธ.ค. อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมีค่าสมดุลย์น้ำอยู่ในช่วง (-20) ถึง (-30) มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่ทางตอนล่างของภาค บริเวณจังหวัดจังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด มีค่าสมดุลย์น้ำ (-1) ถึง (-20) มม. ซึ่งมีค่าการคายระเหยน้ำของพืชมีมากกว่าปริมาณฝนที่ตก ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติม เพื่อป้องกันพืชเหี่ยวเฉา (หากมีการให้น้ำพืชสามารถฟื้นขึ้นมาได้) ซึ่งถ้าพืชขาดน้ำเป็นเวลานานจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถาวร (แม้จะมีการให้น้ำพืชก็ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้) และต้นพืชตายไ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-25 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย 40-60 ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 26-29 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สมดุลย์น้ำมีค่า (-20) ถึง (200) มม.เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่ทางตอนบนของภาคบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ สมดุลย์น้ำมีค่า (-20) ถึง (-30) มม. สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งจะทำให้สมดุลน้ำมีค่าสูงขึ้น ส่งผลให้ดินมีความชื้นสูง โดยเฉพาะ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปอาจมีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ทำให้รากขาดอากาศและเกิดโรครากเน่าและโคนเน่าได้ เกษตรกรในบริเวณดังกล่าวควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพื่อป้องกันรากพืชขาดอากาศและต้นพืชตายได้ ส่วนทางตอนบนของภาค ซึ่งมีปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำพืชอย่างเหมาะสม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

*การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 23-24 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 ของพื้นที่

*การคาดการณ์อุณหภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

*ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสมดุลย์น้ำมีค่า(-1) ถึง (-20) มม. เป็นส่วนใหญ่ ส่วนในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการเจริญเติบโตของพืช

หมายเหตุสมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ