พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 11 เมษายน 2559 - 17 เมษายน 2559

ข่าวทั่วไป Monday April 11, 2016 14:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 11 เมษายน 2559 - 17 เมษายน 2559

ภาคเหนือ

อากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง และมีฝนฟ้าคะนองและกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม

  • ระยะนี้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันอย่างแออัด เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
  • สำหรับสภาพอากาศที่ร้อนและมีแสงแดดจัดจะทำให้มีอัตราการ คายน้ำของพืชและน้ำระเหยจากดินมาก ทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆไว้ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ระยะนี้มีอากาศร้อนและร้อนจัดหลายพื้นที่ เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้ควรจัดหาน้ำดื่มให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันอย่างแออัด เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเครียด ทำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนสภาพอากาศร้อนและแสงแดดจัดจะทำให้อัตราการคายน้ำและการระเหยน้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความชื้นในดินลดลงเรื่อยๆ เกษตรกรจึงให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมอย่างเพียงพอ ส่วนไม้ผลและไม้ยืนต้นที่ยังเล็กควรทำร่มเงาเพื่อพรางแสง และคลุมโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อลดการระเหยน้ำจากดิน รวมทั้งระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยและไรชนิดต่างๆด้วย
  • นอกจากนี้ควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก อาคารบ้านเรือน และโรงเก็บพืชผลทางด้านการเกษตร เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

ภาคกลาง

อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง และมีฝนฟ้าคะนองและกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ระยะนี้อากาศร้อนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันหนาแน่น เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่ปลูกเพิ่มเติม และใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน และระวังป้องกัน การระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ ไม้ดอก และพืชผักชนิดต่างๆ
  • เนื่องจากระยะนี้มีแสงแดดจัดอาจทำให้ใบและดอกของไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ เกิดอาการใบไหม้ได้ ดังนั้นเกษตรกรควรทำร่มเงาพรางแสง เพื่อป้องกันความเสียหายและดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ

ภาคตะวันออก

อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • ระยะนี้มีอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้นที่ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอและไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันหนาแน่น เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลอย่าให้ระดับน้ำลดลงมากและควรทำร่มเงาเพื่อพรางแสงแดดเพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิน้ำสูงมากในตอนกลางวัน นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้สัตว์อยู่กันหนาแน่น และควรให้อาหารในปริมาณที่เหมาะเพื่อป้องกันอาหารเหลือซึ่งอาจทำให้น้ำเน่าเสีย เนื่องจากในสัปดาห์ที่อากาศร้อนสัตว์จะกินอาหารได้น้อยลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

อากาศร้อนในตอนกลางวันตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส

  • เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อน ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่เพาะปลูก โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร อาคารบ้านเรือน และโรงเก็บพืชผลทางด้านการเกษตร
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยประกอบกับในระยะนี้อัตราการคายระเหยน้ำของพืชมีมาก ทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผลอ่อนแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด โดยเฉพาะเพลี้ยไฟในมังคุด และเพลี้ยไก่แจ้ในทุเรียน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

อากาศร้อนในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 11-14 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส

  • เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อน ชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่เพาะปลูก โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่การเกษตร อาคารบ้านเรือน และโรงเก็บพืชผลทางด้านการเกษตร
  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยประกอบกับในระยะนี้อัตราการคายระเหยน้ำของพืชมีมาก ทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลงเรื่อยๆ สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผลอ่อนแคระแกร็นและร่วงหล่น รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด โดยเฉพาะเพลี้ยไฟในมังคุด และเพลี้ยไก่แจ้ในทุเรียน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ