ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 18 เมษายน 2559 - 24 เมษายน 2559
ภาคเหนือ
อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 18-21 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-44 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม
- สัปดาห์นี้จะมีสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ส่วนสภาพอากาศร้อนและแห้ง เกษตรกรที่ปลูกถั่วเขียวและถั่วเหลือง ที่อยู่ในระยะติดฝักและฝักแก่ ควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังการระบาดของเพลี้ยไฟ ซึ่งตัวอ่อน และตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ใบแห้งกรอบหลุดร่วง และฝักบิดเบี้ยวไม่ติดเมล็ด
- นอกจากนี้ เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพราะไฟอาจจะลุกลามทำให้เกิดอัคคีภัยและไฟป่าได้ รวมทั้งควันไฟจากการเผาไหม้จะทำให้ทัศนวิสัยลดลง และเกิดเป็นมลพิษทางอากาศ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 18-21 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย.อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ระยะนี้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง หากปริมาณน้ำมีน้อย จะทำให้สัตว์น้ำอยู่กันอย่างแออัด ส่งผลให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- สำหรับสภาพอากาศที่แห้ง น้ำระเหยมาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชผักหากขาดน้ำ จะทำให้พืชเหี่ยวเฉาชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช ด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นในดิน
- ในช่วงวันที่ 18 - 21 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง บางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลการเกษตร
ภาคกลาง
อากาศร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 18-21 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ระยะนี้มีอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้นที่ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอและไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กันหนาแน่น เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ในช่วงวันที่ 18-21 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง เกษตกรควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างหรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนชาวสวนผลไม้ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายไว้ด้วย
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
- ระยะนี้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวันโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาค เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- สำหรับสภาพอากาศร้อน และมีฝนตก ชาวสวนไม้ผลควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะผลทุเรียน หนอนกินใต้ผิวเปลือกลองกอง และหนอนเจาะขั้วผลเงาะ ซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหาย
- ในช่วงวันที่ 18-24 เม.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ชาวสวนผลไม้ควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นที่รับน้ำหนักมากให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายไว้ด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้สภาพอากาศร้อนหลายพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ส่วน เกษตรกรที่เพาะเลี้ยงต้นกล้า เช่น ต้นกล้าไม้ผลและยางพารา ควรทำร่มเงาเพื่อพรางแสงแดดจัดในตอนกลางวัน รวมทั้งควรดูแลให้น้ำโดยให้ในปริมาณน้อยๆแต่บ่อยครั้ง
- นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่เพาะปลูกโดยเฉพาะในสวนยางพาราโดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่สวน สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผลอ่อนแคระแกร็นและร่วงหล่น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้สภาพอากาศร้อนหลายพื้นที่และมีแสงแดดจัดในตอนกลางวัน เกษตรกรที่ต้องทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานานควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรจัดหาน้ำให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เครียดและเจ็บป่วยได้ง่าย
- ส่วน เกษตรกรที่เพาะเลี้ยงต้นกล้า เช่น ต้นกล้าไม้ผลและยางพารา ควรทำร่มเงาเพื่อพรางแสงแดดจัดในตอนกลางวัน รวมทั้งควรดูแลให้น้ำโดยให้ในปริมาณน้อยๆแต่บ่อยครั้ง
- นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัยในพื้นที่เพาะปลูกโดยเฉพาะในสวนยางพาราโดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่สวน สำหรับไม้ผลที่กำลังเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรดูแลให้น้ำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผลอ่อนแคระแกร็นและร่วงหล่น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74