ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 20 เมษายน 2559 - 26 เมษายน 2559
ภาคเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 20-21 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-44 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัดน่าน ซึ่งทำให้ค่าสมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง 20-40 มม. ส่วนบริเวณอื่นๆค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-20) ถึง (-40) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และให้น้ำอย่างประหยัด เช่น ให้น้ำเฉพาะบริเวณทรงพุ่ม หรือวิธีน้ำหยด รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลร่วงหล่น และแคระแกร็น ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 20-22 เม.ย. มีอากาศร้อน อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 23-26 เม.ย.จะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีรายงานฝนตกหนักบริเวณจังหวัดสกลนคร สุรินทร์และ ศรีสะเกษ ซึ่งทำให้ค่าสมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง (-1)-(-20) มม. ส่วนบริเวณอื่นๆค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนแต่ปริมาณฝนที่ตกมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ต้นพืชเหี่ยวเฉา ถ้าขาดน้ำจะทำให้ต้นพืชตายได้ นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช และรอบโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นภายในดิน
ภาคกลาง
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 20-21 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง บางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาสมดุลน้ำมีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม.ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม และใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
ภาคตะวันออก
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ตลอดช่วง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ดังนั้นเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมและใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำอย่าง เพียงพอและสม่ำเสมอเพื่อ ป้องกันผลผลิตด้วยคุณภาพ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงตลอดช่วง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนในตอนกลางวันตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมโดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลร่วงหล่น นอกจากนี้ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนในตอนกลางวันตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีรายงานฝนตกแต่ปริมาณน้อย สมดุลน้ำมีค่าอยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นพืช และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน
หมายเหตุ สมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/dailydata/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74