ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 11 พฤษภาคม 2559 - 17 พฤษภาคม 2559
ภาคเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาทางตอนบนของภาค สมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง (-20) ถึง (-40) มม. ส่วนทางตอนล่างของภาค ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่มีค่าเป็นลบอยู่ระหว่าง (-40) ถึง (-50) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้าจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้น้ำแก่พืชเฉพาะบริเวณทรงพุ่ม หรือใช้วิธีระบบน้ำหยด โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต และร่วงหล่น ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 15-17 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีรายงานฝนตกบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี และชัยภูมิโดยสมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง (-20) ถึง (+20) มม. ส่วนทางด้านตะวันออกและทางตอนล่างของภาค สมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง (-20) ถึง (-50) มม ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าสมดุลน้ำมีค่าเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรให้น้ำพืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคกลาง
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สมดุลน้ำมีค่าระหว่าง (-30) ถึง (-50) มม. ประกอบกับในช่วง 7 วันข้างหน้า แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณน้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำที่กักเก็บไว้อย่างประหยัด รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชและโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน ภาคตะวันออก
ภาคตะวันออก
การคาดการณ์ฝน ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
การคาดการณ์อุณหภูมิ ในช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค. อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สมดุลน้ำมีค่า อยู่ในช่วง (-10) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม และใช้น้ำที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำอย่าง เพียงพอ ป้องกันผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆด้วย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทางตอนบนของภาคค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-30) ถึง (-40) มม. ส่วนทางตอนล่างของภาคค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-10) ถึง (-40) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต และไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลร่วงหล่น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
การคาดการณ์ฝน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
การคาดการณ์อุณหภูมิ อากาศร้อนโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
ผลกระทบด้านการเกษตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ค่าสมดุลน้ำส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง (-1) - (-30) มม. เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นจังหวัดภูเก็ต กระบี่ มีค่าสมดุลน้ำอยู่ระหว่าง (10) ถึง (20) มม. และในช่วง 7 วันข้างหน้า จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม สำหรับเกษตรกรที่เตรียมดินเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ควรเตรียมดินให้มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อมิให้น้ำท่วมขังแปลงปลูก
หมายเหตุ สมดุลน้ำ คือ ปริมาณฝน – ปริมาณการคายระเหยน้ำของพืช, การคายระเหยน้ำ คือ น้ำระเหย + การคายน้ำของพืช แผนที่สมดุลน้ำสามารถดาวน์โหลดได้ตามลิงค์ http://www.arcims.tmd.go.th/DailyDATA/PET7day.php สำหรับแผนที่สมดุลน้ำคิดที่สถานีตรวจอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนในบริเวณอื่นเป็นการประมาณค่า (Interpolation)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74