พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 - 15 พฤษภาคม 2560
การคาดหมาย
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรระวัง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 9 – 11 และ 13-15 พ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออกมียังคงฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 9-12 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ส่วนในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 9-11 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีลมกระโชกแรง
ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 9-11 พ.ค.ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 9-11 ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74