พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 28 สิงหาคม 2560 - 03 กันยายน 2560

ข่าวทั่วไป Monday August 28, 2017 14:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 28 สิงหาคม 2560 - 03 กันยายน 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 28-31 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

-ไม้ผล ระยะนี้มีฝนตกชุก เกษตรกรที่ปลูกไม้ผล ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในแปลงปลูก แสงแดดสามารถส่องได้ถึงโคนต้นเพื่อลดความชื้นบริเวณทรงพุ่ม ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินและอากาศมีความชื้นสูง

-พื้นที่การเกษตร ในช่วงฤดูฝน วัชพืชจะเจริญเติบโตได้เร็ว เกษตรกรควรหมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกพืช เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและปุ๋ยจากพืชที่ปลูก และเป็นการลดความชื้นสะสมภายในแปลงปลูก รวมทั้งเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืช เนื่องจากโรคและศัตรูพืชบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ในวัชพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 28-31 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-ข้าวนาปี ระยะนี้จะมีฝนตกชุก ทำให้อากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ในข้าว ซึ่งสามารถระบาดได้ในข้าวทุกระยะการเจริญเติบโต ทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลง

-สัตว์เลี้ยง สำหรับในช่วงฤดูฝนแมลงและศัตรูสัตว์ต่างๆ เช่น ยุง เหลือบ ริ้น และไร เป็นต้น จะเจริญเติบโตได้ดี เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูสัตว์ดังกล่าวมารบกวนสัตว์เลี้ยง ทำให้สัตว์เลี้ยงชะงักการเจริญเติบโต และศัตรูสัตว์บางชนิดอาจเป็นพาหะนำโรคมาสู่สัตว์เลี้ยงได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 28-30 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-สัตว์น้ำ ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และในช่วงฤดูฝนแมลงต่างๆจะเจริญเติบโตได้ดี เกษตรกรควรติดตั้งดวงไฟเหนือบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อล่อให้แมลงตัวเต็มวัยมาเล่นแสงไฟในตอนกลางคืนและตกลงไปในบ่อเลี้ยงเป็นอาหารเสริมของสัตว์น้ำได้

-สัตว์เลี้ยง ระยะนี้เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนควรดูแลและหมั่นสังเกตบริเวณโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากในช่วงฤดูฝนอาจมีสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ และแมงป่อง เข้ามาอาศัยหลบซ่อนตัวในบริเวณโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และอาจทำร้ายสัตว์เลี้ยงได้ หากพบสัตว์มีพิษดังกล่าวควรรีบจัดการให้ออกไปจากโรงเรือนโดยเร็ว

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 28-29 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

-ไม้ผล สำหรับในช่วงฤดูฝน เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทรงพุ่มไม่หนาทึบ แสงแดดส่องได้ทั่วถึง เพื่อลดความชื้นบริเวณทรงพุ่ม ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในที่ลุ่มไม่ควรปล่อยให้น้ำขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้

-พริกไทย ส่วนในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรที่ปลูกพริกไทยควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพไม่ควรปล่อยให้น้ำขังในบริเวณโคนต้นพริกไทย เพราะอาจทำให้พริกไทยเป็นโรครากเน่าได้ ส่งผลให้ต้นตาย ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 28-29 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1- 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

-พื้นที่การเกษตร ระยะนี้เป็นช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงไต้ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมดังกล่าวจะมีฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกและในช่วงวันที่28-29 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

-ไม้ผล สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตกหยุดสลับกัน โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก จะเหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ดังนั้น ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชดังกล่าว ซึ่งจะกัดกินใบและยอดอ่อนของพืช ทำให้ พืชชะงักการเจริญเติบโต ต้นเสียหาย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 28 - 29 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ส.ค.-3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

-พื้นที่การเกษตร ระยะนี้เป็นช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงไต้ ภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุมดังกล่าวจะมีฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกและในช่วงวันที่28-29 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

-ชาวเรือและชาวประมง ในช่วงวันที่ 28-29 ส.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ออกประกาศ 28 สิงหาคม 2560 00:00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ