พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 30 สิงหาคม 2560 - 05 กันยายน 2560

ข่าวทั่วไป Wednesday August 30, 2017 15:18 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 30 สิงหาคม 2560 - 05 กันยายน 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 1 ก.ย. และวันที่ 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 4 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

-พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 30 ส.ค.- 1 ก.ย.จะยังคงมีฝนตกชุก สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระวังป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้

-ข้าวนาปีระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง สำหรับข้าวนาปีที่กำลังแตกกอ ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้และโรคใบจุดสีน้ำตาล เป็นต้น ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 30-31 ส.ค. และวันที่ 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ทางตอนบนของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 4 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 30 -31 ส.ค.จะยังคงมีฝนตกชุกโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระวังป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้

-พืชไร่ระยะนี้อุณหภูมิอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช แต่สภาพที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้มีความชื้นในอากาศสูงขึ้นซึ่งอาจชักนำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้และโรคราสนิมในข้าวโพด และโรคราน้ำค้างในพืชตระกูลถั่ว เป็นต้น ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-พื้นที่การเกษตรในช่วงวันที่ 4-5 ก.ย.จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระวังป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้

-สัตว์เลี้ยงระยะนี้มีความชื้นในอากาศสูงขึ้น อาจทำให้เกิดสภาวะอับชื้นขึ้นได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่าย ประกอบกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงจะทำให้สัตว์เลี้ยงเครียด อ่อนแอและติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย ดังนั้นผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้โปร่ง และไม่อับชื้น รวมทั้งควรหมั่นสังเกต หากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษา

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

-พื้นที่การเกษตรระยะนี้จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และในช่วงวันที่ 4-5 ก.ย.จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระวังป้องกันความเสียหายเนื่องจากน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช ซึ่งจะทำให้รากพืชขาดอากาศ ต้นพืชตายได้

-ข้าวนาปีระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชื้นสูง สำหรับข้าวนาปีที่กำลังแตกกอ ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคไหม้และโรคใบจุดสีน้ำตาล เป็นต้น ซึ่งจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 3 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

-พื้นที่การเกษตรช่วงที่ผ่านมาบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกน้อยโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาค และช่วง 7 วันข้างหน้าแม้จะมีฝนแต่ปริมาณอาจไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรบริเวณดังกล่าวจึงควรจัดหาน้ำให้แก่พืชที่ปลูกตามความเหมาะสม

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. – 2 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 5 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

-พื้นที่การเกษตรบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

-ยางพาราในช่วงวันที่ 3-5 ก.ย. บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง อาจชักนำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำ และโรคราสีชมพู เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง

-ชาวเรือและชาวประมงในช่วงวันที่ 3-5 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ออกประกาศ 30 สิงหาคม 2560 00:00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ