พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 25 ตุลาคม 2560 - 31 ตุลาคม 2560

ข่าวทั่วไป Wednesday October 25, 2017 15:40 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 25 ตุลาคม 2560 - 31 ตุลาคม 2560

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มลดลงโดยเฉพาะด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง ส่วนบริเวณที่ถูกน้ำท่วมทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและเร่งฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรให้ใช้ได้ดีดังเดิม
  • สัตว์เลี้ยงระยะนี้เป็นต้นฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงและมีฝนตก ต่อจากนั้นอุณภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย รวมทั้งให้วัคซีนป้องกันโรคที่จะเกิดในฤดูหนาวให้กับสัตว์ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรระยะต่อไปด้วย
  • สัตว์เลี้ยงระยะนี้เป็นต้นฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ต่อจากนั้นอุณภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน ร่างกายอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย รวมทั้งให้วัคซีนป้องกันโรคที่จะเกิดในฤดูหนาวให้กับสัตว์ด้วย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 25-27 ต.ค. มีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สัตว์เลี้ยงระยะนี้เป็นต้นฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงวันที่ 25-27 ต.ค.จะมีฝนตกและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และติดเชื้อโรคได้ง่าย
  • พื้นที่การเกษตร ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน โดยปริมาณและการกระจายของฝนลดลง อุณหภูมิจะลดลงและมีลมแรงเกิดขึ้นได้ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ไม้ผลและไม้ยืนต้น และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆไว้ด้วย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 25-28 ต.ค. มีฝนร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงโดยเฉพาะบริเวณตอนบนของภาค เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำเอาไว้และวางแผนการใช้น้ำ เพื่อจะได้มีน้ำเพียงพอใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • ข้าวนาปีระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง และในช่วงที่ผ่านมาบางพื้นที่เช่นบริเวณจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้วซึ่งมีฝนตกน้อย ชาวนาควรดูแลอย่าให้ข้าวนาปีที่กำลังตั้งท้อง-ออกรวงขาดน้ำในระยะนี้เพื่อให้ข้าวมีผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอ และหนอนกระทู้คอรวง ซึ่งจะกัดกินต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรในระยะนี้จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ไม้ผลระยะนี้ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

  • พื้นที่การเกษตรในระยะนี้จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ไม้ผลระยะนี้ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นเพิ่มสูงขึ้น สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า

ออกประกาศ 25 ตุลาคม 2560 00:00 น.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ