ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ
ระหว่าง 27 ตุลาคม 2560 - 02 พฤศจิกายน 2560
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 2 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- พื้นที่การเกษตร ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรระยะต่อไปด้วย ส่วนบริเวณที่ถูกน้ำท่วมทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและเร่งฟื้นฟูแปลงปลูกพืชให้ใช้ได้ดีดังเดิม
- ข้าวนาปี ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มลดลง สำหรับข้าวนาปีที่กำลังตั้งท้อง-ออกรวง ชาวนาควรดูแลอย่าให้แปลงนาขาดน้ำในระยะนี้เพื่อให้ข้าวมีผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาด ของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอ และหนอนกระทู้คอรวง ซึ่งจะกัดกินต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
- ผลผลิตการเกษตร ระยะนี้ท้องฟ้าโปร่ง กับมีแสงแดดจัด เกษตรกรควรตากผลผลิตที่เก็บเกี่ยวไปแล้ว เพื่อลดความชื้นป้องกันเชื้อราที่จะเกิดกับผลผลิต
- สัตว์เลี้ยง ระยะนี้เป็นต้นฤดูหนาว อากาศจะเริ่มเย็นลง โดยในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยได้ง่าย รวมทั้งเตรียมจัดทำแผงกำบังลมหนาวให้กับสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันลมหนาวโกรกโรงเรือน ทำให้สัตว์เลี้ยงหนาวเย็น จนร่างกายอ่อนแอ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 2 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.
- สัตว์เลี้ยง ระยะนี้เป็นต้นฤดูหนาว สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค.จะมีฝนตกและอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และติดเชื้อโรคได้ง่าย
- พืชไร่/ ไม้ดอก/พืชผัก ระยะนี้ปริมาณฝนเริ่มลดลงกับมีอากาศเย็นและชื้นในตอนเช้าเหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ในพืชไร่ ไม้ดอก และพืชผักต่างๆ ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ภาคตะวันออก
- ในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตร ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บน้ำเป็นของตนเองควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่มีฝนตกน้อย ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรและเร่งฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรให้ใช้ได้ดีดังเดิม
- ไม้ผล ระยะนี้ปริมาณฝนเริ่มลดลงกับมีอากาศเย็นและชื้นในตอนเช้า ชาวสวนควรระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนรังเจาะลำต้นในทุเรียน หนอนชอนใบในมังคุด และหนอนชอนเปลือกลำต้นในลองกอง เป็นต้นซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 27-28 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 -40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
- ไม้ผล ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า
- ชาวเรือและชาวประมง ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 3 พ.ย.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 27-29 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 2 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตร ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้ ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนัก
- ไม้ผล ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สภาพอากาศยังคงมีความชื้นสูง สำหรับไม้ผล เช่น ทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งอยู่ในระยะแตกใบอ่อน ชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า
- ชาวเรือและชาวประมง ในช่วงวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย. ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 30 ต.ค. – 3 พ.ย.
ออกประกาศ 27 ตุลาคม 2560 00:00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74