พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560 – 2 มกราคม 2561

ข่าวทั่วไป Wednesday December 27, 2017 13:43 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560 – 2 มกราคม 2561

ออกประกาศวันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 155/60

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27-30 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนตกเกิดขึ้นได้ ส่วนในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร

คำเตือน ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 60 -2 ม.ค. 61 ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 27-31 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยในช่วงวันที่ 27 – 28 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 24-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วง วันที่ 1 - 2 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 23-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำ สุด 1-7 องศาเซลเซียส กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-35 กม. /ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน โดยมีอากาศหนาวเย็นกับมีฝนตก เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นเพียงพอ เพื่อป้องกันร่างกายปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะอาจทำให้เปียกชื้นเสียหายได้
  • สำหรับสภาพอากาศเย็นและชื้น เป็นสภาวะแวดล้อมที่เชื้อราสามารถเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะบริเวณที่มีการปลูกพืชใกล้ชิดกันมากหรือปลูกพืชในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทน้อย เกษตรกรที่ปลูกกาแฟควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก เมื่อพบการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราเช่น โรคราสนิมเป็นต้น ควรรีบควบคุมก่อนระบาดไปยังต้นอื่นๆ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 23-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้สภาพอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้ได้รับความอบอุ่นเพียงพอ เพื่อป้องกันร่างกายปรับตัวไม่ทัน จะอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรหมั่นสังเกตหากพบ
สัตว์ที่ป่วยควรรีบแยกออกจากกลุ่มและรีบรักษาเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
  • อากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารที่ให้ เพื่อป้องกันอาหารเหลือ จะทำให้น้ำเน่าเสีย รวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยง

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 2 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้น สัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ทางตอนบนของภาคยังคงมีอากาศหนาวเย็น ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนไม่ให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับสภาพอากาศเย็นและชื้น เหมาะแก่การระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ดังนั้น เกษตรกรที่ปลูก พืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชดังกล่าว ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 2 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมี คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • สำหรับสภาพอากาศเย็นและชื้น เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน และโรคราแป้งในมะม่วง เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก เมื่อพบการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ควรรีบควบคุมก่อนระบาดไปยังต้นอื่นๆ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในช่วงที่อากาศเย็น สัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลงทำให้สัตว์น้ำเจริญเติบโตช้า และอาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารลงรวมทั้งควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยง

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก โดยในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 31 ธ.ค.60 - 2 ม.ค. 61 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ วันที่ 31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศ มีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวน เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคหน้ากรีดยางในยางพารา และโรคราสีชมพูในลองกอง เป็นต้น
  • ในระยะนี้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง2-4 เมตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหา

ฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และในช่วงวันที่31 ธ.ค. 60 - 2 ม.ค. 61 เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 27 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนธันวาคม (ในช่วงวันที่ 1-26 ธ.ค.) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 50 มม. โดยภาคเหนือตอนบนและภาคกลางตอนล่างมีปริมาณฝนสะสม 5-50 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 50-600 มม.โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 300-600 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีรายงานฝนตกเล็กน้อย โดยมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 25 มม. สำหรับภาคใต้ตอนล่างส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 1-200 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 100-200 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม 15-30 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลางด้านตะวันออก มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆ

สมดุลน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-30) มม. เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลางด้านตะวันออก มีค่าสมดุลน้ำสะสม (-20)-(-30) มม. และภาคใต้ตอนล่างมีค่าสมดุลน้ำสะสม 10-200 มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นและมีฝนตกเล็กน้อยในช่วงท้ายของช่วง และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ