พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 3 - 9 มกราคม พ.ศ. 2561
ออกประกาศวันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 2/61
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าแต่ยังคงมีอากาศเย็นโดยทั่วไป โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
คำเตือน ในช่วงวันที่ 4-7 ม.ค. 61 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนา ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. 61 บริเวณประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งควรระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
คำแนะนำสำหรับการเกษตร
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 3-8 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-10องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในวันที่ 9 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-7 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้จะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปโดยทางตอนบนของภาคจะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นยาวนานกว่าทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันร่างกายหนาวเย็นจนอ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
- สำหรับไม้ผลที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว เช่น ลิ้นจี่ และลำไย เกษตรกรควรงดให้น้ำรอจนเห็นดอกชัดเจน จึงค่อยให้น้ำโดยให้ในปริมาณที่น้อยก่อนแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว15-30 กม. /ชม. ส่วนในวันที่ 8-9 ม.ค. 61 อากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์60-70 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก อาคารบ้านเรือนตลอดจนโรงเก็บพืชผลและเมล็ดพันธุ์ทางด้านการเกษตรโดยเฉพาะบริเวณสวนยางพาราควรหลีกเลี่ยงการจุดไฟหากมีความจำเป็นต้องจุดไฟควรดับให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
- สำหรับระยะนี้ปริมาณฝนมีน้อย ปริมาณน้ำระเหยมีมากทำให้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำ บริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดินและรักษาอุณหภูมิดิน
ภาคกลาง
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 3-8 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม.ส่วนในวันที่ 9 ม.ค. 61 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำพืชครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง หรือให้น้ำพืชในช่วงเย็นเพื่อลดการสูญเสียน้ำโดยการระเหย และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 61 มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. 61 อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผล เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้การติดผลลดลงและผลผลิตด้อยคุณภาพ
- ส่วนเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
- ระยะนี้ปริมาณฝนมีน้อย แต่ปริมาณน้ำระเหยยังคง มีมาก ทำให้ปริมาณน้ำในดินลดลง เกษตรกรควรคลุมดินด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำ
บริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน และรักษาอุณหภูมิดิน
ภาคใต้
พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า
ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 3-7 ม.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่8-9 ม.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา : ลม ตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลม ตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์75-85 %
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่น สูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์70-80 %
ผลกระทบต่อพืช/สัตว์
- ระยะนี้เป็นช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก กับจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. 61 เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- สำหรับในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค ทำให้ความชื้นในดินและในอากาศมีสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชผักต่างๆ เช่น โรคหน้ากรีดยางในยางพาราโรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เป็นต้น
- อนึ่งในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค. 61 บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค โดยมีคลื่นสูง 2-3เมตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ปริมาณฝนสะสมเดือนธันวาคม (ในช่วงวันที่ 1-2 มกราคม 2561) บริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนไม่มีรายงานฝนตก สำหรับภาคใต้ตอนล่างส่วนมากมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 25 มม.
ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม.โดยภาคเหนือตอนบนมีปริมาณฝนสะสมสมสูงสุด 50-100 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 10-150 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 50-150 มม.
ศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำ สะสม 10-30 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออกมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆ
สมดุลน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-30) มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-20)-(-30) มม. เว้นแต่ภาคเหนือตอนบนมีค่าสมดุลน้ำสะสม 10-70 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม 1-150 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีค่าสมดุลน้ำสะสมสูงสุด 20-150 มม. เว้นแต่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-20) มม.
คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคเหนือและภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง รวมทั้งควรดูแลสุขภาพของตนเองแข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย สำหรับภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะวันที่ 8-9 ม.ค. 61 เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74