พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 8 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Monday January 8, 2018 16:15 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 8-14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 4/61

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนบางแห่งเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9 - 11 ม.ค. 61 อากาศจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็วกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิลดลง 6-8 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงวันที่ 10 - 15 ม.ค. 61 บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร

คำเตือน ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. 61 ขอให้เกษตรกรระวังปริมาณฝนที่จะมีผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงวันที่ 9 - 11 ม.ค. 61 ขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 10 - 15 ม.ค. 61 เกษตรกรบริเวณชายฝั่งภาคใต้ระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ม.ค.อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา เซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-27 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณ ห ภูมิต่ำ สุด 2-6 องศาเซล เซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้สภาพอากาศจะแปรปรวน โดยมีฝนและอากาศจะหนาวเย็นอย่างรวดเร็ว เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งเพราะอาจเปียกชื้นเสียหายได้
  • ในช่วงวันที่ 10 - 14 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • อากาศที่หนาวเย็นทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรลดปริมาณอาหารที่ให้เพื่อป้องกันอาหารเหลือซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสีย และควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 20-40ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 11 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 23-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-6 องศา เซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้จะมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ในช่วงวันที่ 9 - 11 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้สัตว์ที่ไม่แข็งแรงตายได้
  • สำหรับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วอาจทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันและน็อคน้ำได้ เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำและปรับอุณหภูมิน้ำในบ่อ นอกจากนั้นอากาศที่หนาวเย็นทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย เกษตรกรควรลดปริมาณอาหารเพื่อไม่ให้อาหารที่เหลือทำให้น้ำเน่าเสีย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 20-30ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ม.ค. 61 อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 9 - 14 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง หรือให้น้ำแก่พืชในช่วงเย็น เพื่อลดการสูญเสียน้ำ โดยการระเหย และวางแผนการใช้น้ำ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 9 ม.ค. 61 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อย ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ม.ค. 61 อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 9 - 14 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผล เกษตรกรควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้การติดผลลดลง และผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 9 - 14 ม.ค. 61 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 11 - 14 ม.ค. 61 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด29-32 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 9 - 14 ม.ค. 61 ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด31-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค ทำให้ความชื้นในดินและในอากาศมีสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชผักต่างๆ
เช่น โรคหน้ากรีดยางในยางพารา โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เป็นต้น
  • ในช่วงวันที่ 11-14 ม.ค. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า3 เมตร เกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝ่งั ควรระวังอันตรายและ

ป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 8-14 มกราคม 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนมกราคม (ในช่วงวันที่ 1-7 ม.ค.) บริเวณประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสมน้อยกว่า 25 มม. เป็นส่วนมากเว้นแต่บริเวณจังหวัดจันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง ยะลา และนราธิวาส มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 25 มม. โดยจังหวัดพัทลุงมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 100 – 150 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสมน้อยกว่า 25 มม. เป็นส่วนมาก เว้นแต่บริเวณจังหวัดจันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง ยะลา และนราธิวาส มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 25 มม. โดยจังหวัดพัทลุงมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 100 – 150 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 15-30 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลางทางด้านตะวันออก มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆ

สมดุลน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-10)-(-30) มม. เว้นแต่จังหวัดจันทบุรีมีค่าสมดุลน้ำสะสม 10-20 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1)-(-20) มม. เว้นแต่บริเวณประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง ยะลา และนราธิวาสมีค่าสมดุลน้ำสะสม 1-70 มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ สำหรับ 7 วัน ข้างหน้า อุณหภูมิจะลดลง 4-8 องศาเซลเซียส และมีฝนตกบางแห่ง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการ เจ็บป่วยเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชผัก ซึ่งจะทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง และด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ