พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 30 มกราคม 2561 - 5 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวทั่วไป Tuesday January 30, 2018 14:23 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 30 มกราคม 2561 - 5 กุมภาพันธ์ 2561

การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีสภาพอากาศแปรปรวนโดยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 2 - 5 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องและอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น

สำหรับ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 5 ก.พ. ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

ในช่วงสัปดาห์นี้ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรควรระวังความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. - 4 ก.พ. ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนควรระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากฝนที่ตกในระยะแรกไว้ด้วย สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 4 ก.พ.

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่วนภาคเหนือมีลมตะวันตกในระดับบนพัดเข้ามาปกคลุม ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 5 ก.พ.

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 1 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส

ส่วนในวันที่ 2 – 5 ก.พ. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 10-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค

และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.

ส่วนในวันที่ 2 - 5 ก.พ. มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณภูมิจะลดลงเล็กน้อย

อุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ส่วนในวันที่ 2 - 5 ก.พ. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนในวันที่ 2 - 5 ก.พ. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในวันที่ 31 ม.ค. - 5 ก.พ. ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ในวันที่ 31 ม.ค. - 5 ก.พ. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. -1 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ส่วนในวันที่ 2 - 5 ก.พ. อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.

ออกประกาศ 30 มกราคม 2561

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ