พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 - 11 กุมภาพันธ์ 2561
การคาดหมาย
ในช่วงวันที่ 5-6 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องกับมีลมแรง สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 ม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 10-12 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-10 ก.พ. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงวันที่ 5-6 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่องกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้จะมีฝนลดลงและคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5-7 ก.พ. หลังจากนั้นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 5-6 และ 10-12 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาคอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-27 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 1-7 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 5-7 และ 10-12 ก.พ. อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-27 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 8-9 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 5–6 และ 10-12 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยจะมีฝนเล็กน้อยในวันที่ 10 ก.พ.
อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 5-6 และ 10-12 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยจะมีฝนเล็กน้อยในวันที่ 10-11 ก.พ.
อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 5 - 8 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 12 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 5 -8 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ส่วนในวันที่ 9 - 12 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 5 - 7 และ 11-12 ก.พ. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 10 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ออกประกาศ 5 กุมภาพันธ์ 2561
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74