พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 28 กันยายน - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข่าวทั่วไป Friday September 28, 2018 15:19 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 117/61

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่งเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “จ่ามี” (TRAMI) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. หลังจากนั้นจะเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 30 ก.ย. ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วยโดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนาม ประเทศลาว ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่

คำเตือน ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้ที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่2-4 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 29 ก.ย. - 1 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง
  • ในบางพื้นที่ที่ฝนตกไม่สม่ำ เสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิต

เสียหายและด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28 -30 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-4 ต.ค.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 - 30 ก.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงและแข็งแรง
  • ในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรปล่อยให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ เพราะจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
  • ในบางพื้นที่ที่ฝนตกไม่สม่ำ เสมอ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งและมีลมกระโชกแรง ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-34 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว รวมทั้งควรผูกยึดและค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้อยู่ในสภาพมั่นคงและแข็งแรง
  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่น โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล โรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 4 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 28-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 4 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวนความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 4 ต.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ เช่นโรคราสนิมในกาแฟ โรคราสีชมพู และโรคหน้ากรีดยางในยางพารา เป็นต้น
  • เกษตรกรไม่ควรปล่อยผลไม้หรือเศษซากของพืชร่วงหล่นและกองสุมอยู่ในบริเวณสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช ซึ่งจะนำความเสียหายมาสู่ต้นพืชได้รวมทั้งควรดูแลพื้นที่เพาะปลูกให้โปร่งอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อลดความชื้นสะสมและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 4 ต.ค. 2561

ปริมาณฝนสะสมเดือนกันยายน (ช่วงวันที่ 1-27 ก.ย.) ประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 100-800 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางด้านตะวันออก และภาคตะวันออกตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 300-800 มม.สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 100-600 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 200-600 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 1-100 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกด้านตะวันตกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 50-100 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม10-100 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนล่างมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 50-100 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 25-35 มม. โดยภาคเหนือตอนล่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางด้านตะวันตก มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆ

สมดุลน้ำสะสม ประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1) - (-40) มม. โดยภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-30) - (-40) มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำสะสม (-1) - (-20) มม.ส่วนภาคใต้ตอนกลาง มีค่าสมดุลน้ำสะสม 10-70 มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายงานฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 28 ก.ย. - 1 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับในช่วงวันที่ 2-4 ต.ค. 61 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวเกษตรกรในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรกักเก็บน้ำใว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากในระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง นอกจากนี้เกษตรกรควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของต้นพืช ทำให้ชะงักการเจริญเติบโตและผลผลิตลดลง สำหรับภาคใต้เกษตรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวนและพืชไร่ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ