พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 8 – 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Friday February 8, 2019 16:20 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 8 – 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 17/62

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 8 - 9 ก.พ. 62 บริเวณภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ก.พ. 62ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 8 - 9 ก.พ. 62 มีลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้นำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยพัดเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ก.พ. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือในช่วงวันที่ 10 - 12 ก.พ. 62 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น

คำเตือน ในช่วงวันที่ 10 - 13 ก.พ. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนเกษตรกรควรระมัดระวัง และป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 10 ก.พ. 62 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 11-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-15 กม./ชม. สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. 62 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้อุณหภูมิในตอนกลางวันและกลางคืนจะแตกต่างกันมาก เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 9 ก.พ. 62 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 60-70 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 10 - 14 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งและปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่กลางแจ้งขณะฟ้าคะนอง
  • ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลอุณหภูมิเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันและเป็นโรคได้ง่ายและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วยหรือสารคัดหลั่งจากสัตว์โดยตรง หากมีความจำเป็นควรสวมถุงมือยางทุกครั้ง

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 10 ก.พ. 62 มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในระยะแรกหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานเกษตรกรควรใช้น้ำ ที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
  • ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จากสภาวะดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆขณะลมแรง

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 8 - 10 ก.พ. 62 มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 11 - 14 ก.พ. จะมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยผูกยึดและค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้มีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันต้นโค่นล้มและกิ่งฉีกหักเมื่อมีลมแรง
  • เนื่องจากระยะนี้และระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 8 – 9, 14 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 13 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 8 – 9, 14 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 13 ก.พ. 62 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิ ต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ปริมาณ และการกระจายของฝนมีน้อยโดยเฉพาะทางตอนบนของภาคเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชที่มีระบบรากตื้นและพืชที่ปลูกใหม่ เพื่อป้องกันการเหี่ยวเฉาเนื่องจากการขาดน้ำ
  • ส่วนทางตอนล่างของภาค ฝนที่ลดลงในระยะนี้อาจทำให้ศัตรูพืชจำพวกหนอนระบาดได้ โดยเฉพาะในพืชสวนและพืชผัก ดังนั้นควรหมั่นสังเกต หากพบการระบาดของศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัด
  • สำหรับบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก เกษตรควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 - 13 ก.พ. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง โดยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 8 - 14 ก.พ. 2562

ปริมาณฝนสะสมเดือนมกราคม (ช่วงวันที่ 1 - 7 ก.พ.) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 25 มม. โดยฝนส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 50 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 1 - 7 ก.พ. ) บริเวณประเทศไทยตอนบนมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 25 มม. โดยฝนส่วนใหญ่อยู่บริเวณภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 50 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม ประเทศไทยส่วนใหญ่มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 20-30 มม. เว้นแต่บริเวณภาคใต้ตอนล่างที่มีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 30-35 มม.

สมดุลน้ำ ประเทศไทยส่วนใหญ่มีค่าสมดุลน้ำเป็นลบ คือ (-10) - (-40) มม. เว้นแต่บริเวณภาคใต้ตอนบนและตอนล่างที่มีค่าสมดุลน้ำ เป็นบวก คือ 1-40 มม.

คำแนะนำ ช่วง 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นทั่วไปกับมีอากาศหนาวหลายพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆมีอากาศเย็นบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่งส่วนมากบริเวณภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 8 - 9 ก.พ. 62 บริเวณภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ก.พ. 62ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งระวังอันตรายที่อาจเกิดจากลมกระโชกแรง สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชเสียหายได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ