พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 12 - 18 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Wednesday June 12, 2019 14:46 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 12 - 18 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 70/62

การคาดหมายลักษณะอากาศ บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 12-14 มิ.ย. ร่องมรสุมเคลื่อนตัวผ่านภาคเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังปานกลาง

คำเตือน ระยะนี้บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย.

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้รั่วซึมและทำแผงกำบังฝนสาด เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงเปียกฝนจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาด ของโรคพืช เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคราน้ำค้าง และโรคราแป้ง เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 12-14 มิ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง กับมีฝนตกหนัก บางแห่งทางตอนล่างของภาค ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ เช่น โคและกระบือ เป็นต้น
  • เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดควรระวังและป้องกันการระบาด ของโรคและศัตรูพืช เช่น โรคราน้ำค้าง โรคกาบใบไหม้ และหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด เป็นต้น

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวรวมทั้งจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
  • เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช เช่น โรคโคนเน่าหัวเน่าโรคใบด่างมันสำ ปะหลัง เพลี้ยแป้งมันสำ ปะหลังและเพลี้ยหอย เป็นต้น

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด32-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไม่ควรให้น้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อเพราะอาจทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
  • เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคราดำหนอนเจาะผล และหนอนเจาะเมล็ด เป็นต้น-ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย.บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าวรวมทั้งจัดระบบระบายน้ำให้มีระสิทธิภาพเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก สำหรับในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • เกษตรกรที่ปลูกปาล์มน้ำมันควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช เช่น โรคโคนลำต้นเน่าและหนอนปลอกเล็ก เป็นต้น
  • ระยะนี้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-18 มิ.ย.
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 12 - 18 มิถุนายน 2562

ปริมาณฝนสะสมเดือนมิถุนายน (ในช่วงวันที่ 1-11 มิถุนายน) บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 25-200 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 50-300 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 150-300 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม10-100 มม. สำหรับภาคใต้ ส่วนมากมีปริมาณฝนสะสม 25-300 มม. โดยภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 150-300 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยส่วนมากมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 15-40 มม. โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสมมากกว่าบริเวณอื่นๆ

สมดุลน้ำ บริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำ (-1)-(-40) มม. เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออกมีค่าสมดุลน้ำ 10-150 มม. สำหรับภาคใต้ส่วนมากมีค่าสมดุลน้ำ 1-300 มม. เว้นแต่ภาคใต้ตอนบน มีค่าสมดุลน้ำ (-1)-(-20) มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา บริเวณประเทศไทยมีรายงานฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีฝนตกหนักมากบางแห่ง สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกัน ความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ