พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Friday July 26, 2019 14:52 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.62 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีการกระจายของฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.62 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

คำเตือน -

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 27-29 ก.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. - 1 ส.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่าสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 30 ก.ค. - 1 ส.ค. จะมีการกระจายของฝนเพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำสำรองควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม รวมทั้งควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางการเกษตรในช่วงที่มีฝนน้อย
  • เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะฝักและหนอนกระทู้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค. จะมีการกระจายของฝนเพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำสำรองควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม รวมทั้งควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางการเกษตรในช่วงที่มีฝนน้อย
  • นาข้าวที่อยู่ในเขตชลประทานและอยู่ในระยะกล้า เกษตรกรควรระวังการเข้าทำลายของหนอนกระทู้กล้า ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวได้รับความเสียหายได้ โดยหมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ และกำจัดวัชพืชตามคันนาหรือบริเวณใกล้เคียง เพื่อทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของหนอนกระทู้กล้า

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค. จะมีการกระจายของฝนเพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำสำรองควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต
  • สำหรับเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางการเกษตรในช่วงที่มีฝนน้อย
  • เกษตรกรที่ปลูกอ้อย ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน โดยเฉพาะหนอนกออ้อย และจักจั่น เป็นต้น ซึ่งศัตรูพืชดังกล่าวจะกัดกินทำลายลำต้นและใบ ทำให้ต้นอ้อยได้รับความเสียหาย

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่

ในช่วงวันที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ในระยะนี้มีฝนน้อย เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะลำต้นในทุเรียน เป็นต้น
  • สำหรับเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลัง และศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยแป้งและไรแดง เป็นต้น

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

ผลกระทบต่อพืช/สัตว์

  • ระยะนี้ปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย โดยเฉพาะทางตอนบนและตอนกลางของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต
  • ในช่วงที่มีฝนตกและหยุดสลับกัน เกษตรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะผลในทุเรียน หนอนหัวดำ และหนอนปลอกเล็กในปาล์มน้ำมัน เป็นต้น
  • เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ควรดูแลจำนวนสัตว์น้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่ หากสัตว์น้ำอยู่อย่างแออัดจะทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
รายงานสถานการณ์สมดุลน้ำใน 7 วันที่ผ่านมา และการคาดการณ์ผลกระทบต่อการเกษตร ในช่วงวันที่ 26 ก.ค. - 1 ส.ค. 2562

ปริมาณฝนสะสมเดือนกรกฎาคม (ในช่วงวันที่ 1-25 ก.ค.) ประเทศไทยส่วนใหญ่มีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 200 มม. เว้นแต่บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตกตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก ภาคกลางตอนล่างด้านตะวันออก ภาคตะวันออกด้านตะวันออกตอนล่าง และภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนบนที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 200-800 มม.

ปริมาณฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีปริมาณฝนสะสมต่ำกว่า 100 มม. เป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออก ภาคตะวันออกด้านตะวันออกตอนล่าง และภาคใต้ฝั่งตะวันตกที่มีปริมาณฝนสะสม 100-300 มม.

ศักย์การคายระเหยน้ำสะสม บริเวณประเทศไทยมีค่าศักย์การคายระเหยน้ำสะสม 20-35 มม.

สมดุลน้ำ บริเวณประเทศไทยมีค่าสมดุลน้ำ (-1)-(-40) มม. บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ภาคกลางตอนกลาง ภาคตะวันออกด้านตะวันตก และภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบนและตอนกลาง นอกนั้นมีค่าสมดุลน้ำ 1-100 มม. เว้นแต่บริเวณภาคตะวันออกด้านตะวันออกตอนล่าง และภาคใต้ฝั่งตะวันตกตอนบนที่มีค่าสมดุลน้ำสูงสุด คือ 100-300 มม.

คำแนะนำ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ สำหรับในช่วง 7 วันข้างหน้า บริเวณประเทศไทยจะยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง พื้นที่ซึ่งมีค่าสมดุลน้ำเป็นลบคือภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก ภาคกลางตอนกลาง ภาคตะวันออกด้านตะวันตก และภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบนและตอนกลาง เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันพืชขาดน้ำ อาจส่งผลให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ส่วนพื้นที่ซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ผลไม้ และพืชผักไว้ด้วย ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรสำรวจโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และซ่อมแซมโรงเรือนให้มั่นคงแข็งแรงหลังคาอย่าให้รั่วซึม แผงกำบังฝนสาดให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยง เปียกฝน หนาวเย็น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย นอกจากนี้ควรกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกเพื่อไม่ให้แย่งน้ำและธาตุอาหารจากพืชที่ปลูก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ