พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า 11 – 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Monday November 11, 2019 15:11 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 11 – 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 135/62

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย.62 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย.62 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า

คำเตือนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย.62 เกษตรกรที่อยู่บริเวณประเทศไทยตอนบนควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย.62 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย.62 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศหนาวเย็น และมีฝนตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกระทู้ลายจุด เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย.62 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย.62 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • ระยะนี้จะมีอากาศหนาวเย็น และมีฝนตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้วไม่ควรตากไว้กลาง สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีก ควรควบอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-14 และ 17 พ.ย.62 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย.62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • อากาศเย็นในตอนนเช้า และมีฝนตกบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวแล้วไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะอาจเสียหายจากฝนที่ตกในระยะนี้ได้

ภาคตะวันออก

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ในช่วงวันที่ 11-13 และ 17 พ.ย.62 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย.62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • อากาศเย็นในตอนนเช้า และมีฝนตกบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย. เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรลดปริมาณการให้อาหารลง เนื่องจากในช่วงที่มีอากาศเย็นสัตว์น้ำจะกินอาหารได้น้อยลง

ภาคใต้

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า และผลกระทบต่อพืช/สัตว์

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ในช่วงวันที่ 15-17 พ.ย.62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

  • มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสนิมในกาแฟ โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน เป็นต้น รวมทั้งควรดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ลักษณะอากาศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 4 - 10 พฤศจิกายน 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นอ่อนกำลังลง โดยบริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมบริเวณดังกล่าวในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคอื่นๆ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนาแน่นเกือบตลอดสัปดาห์ จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เกือบตลอดสัปดาห์ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนบนในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ โดยพาดเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันแรกของสัปดาห์ ซึ่งต่อมาหย่อมความกดอากาศต่ำดังกล่าวได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันและพายุโซนร้อน "นากรี (NAKRI(1924))" ตามลำดับในวันที่ 5 พ.ย. จากนั้นได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นไต้ฝุ่นในช่วงบ่ายของวันที่ 8 พ.ย. ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนในช่วงเช้าของวันที่ 9 พ.ย. และเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ