พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 - 20 พฤศจิกายน 2562

ข่าวทั่วไป Thursday November 14, 2019 13:20 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 - 20 พฤศจิกายน 2562

การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย. 62 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับในช่วงวันที่ 18 - 20 พ.ย. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 14 – 15 และ 18-20 พ.ย. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลง ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา

ในช่วงวันที่ 14 - 15 พ.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง สำหรับในช่วงวันที่ 18 - 20 พ.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น

ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 14-15 และ 18-20 พ.ย. 62 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 พ.ย. 62 มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10-20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10–20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนร้อยละ 10–20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14 และ 17-18 พ.ย. 62 มีเมฆเป็นส่วนมากกับหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนร้อยละ 10–20 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 และ 19-20 พ.ย. 62 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ออกประกาศ 14 พฤศจิกายน 2562

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ