พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ข่าวทั่วไป Monday November 25, 2019 13:55 —กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 7 วันข้างหน้า

ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ออกประกาศวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 141/62

การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย. 62 พื้นราบบริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นราบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นมากกว่าภาคอื่นๆ ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 62 บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส

สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค. 62 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง รวมทั้งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

คำเตือนในช่วงวันที่ 25 พ.ย. - 1 ธ.ค.62 บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับชาวเรือและชาวประมงบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กลอออกจากฝั่งในระยะนี้

คำแนะนำสำหรับการเกษตร

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย.62 บริเวณพื้นราบมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย บริเวณพื้นราบมีเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • ระยะนี้มีอากาศหนาวเย็น และมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเอง และไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว ไว้กลางแจ้งข้ามคืนเพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ นอกจากนี้ควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับเกษตรกรที่มีพื้นที่อยู่เขตชลประทาน ควรเลื่อนการปลูกพืชรอบใหม่ออกไปก่อน เนื่องจากมีน้ำน้อยและอาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย.62 บริเวณพื้นราบมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • ระยะนี้มีอากาศหนาวเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ผลและพืชผัก เช่น โรคราน้ำค้าง เป็นต้น สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ และควรเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 25-29 พ.ย.62 มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ความชื้นสัมพัทธ์ 65-75 %

  • อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเข้า เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายจากหมอกและน้ำค้างได้ รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผักต่างๆ ไว้ด้วย จากสภาพอากาศที่แห้งในช่วงนี้ เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลงและด้อยคุณภาพ
ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 25-27 พ.ย.62 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ในช่วงวันที่ 28 พ.ย. - 1 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80 %

  • อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ผล เช่น โรคราดำในมะม่วง เป็นต้น นอกจากนี้ควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ภาคใต้

ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในวันที่ 26 พ.ย. 62 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 27 พ.ย.-1 ธ.ค. 62 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง

ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียสความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 %

ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 26 พ.ย. - 1 ธ.ค. 62 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 75-85 %

  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยดูแลระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังแปลงปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคหน้ากรีดยางในยางพารา โรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน เป็นต้น อนึ่ง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยเรือเล็กงดออกจากฝั่งในระยะนี้
ลักษณะอากาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระหว่างวันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอ่อนกำลังลง โดยบริเวณความกดอากาศกำลังปานกลางได้ปกคลุมบริเวณดังกล่าวในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เกือบตลอดสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าวทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ส่วนมากในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับภาคใต้มีฝนตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป กับมีรายงานฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ส่วนมากทางฝั่งตะวันออกของภาค

ภาคเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีรายงานน้ำค้างแข็งบริเวณยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 18 พ.ย. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ กับมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดภูมีอากาศหนาว ภาคกลาง มีอากาศเย็นหลายพื้นที่ในระยะต้นและกลางสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นทั่วไป โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 18 พ.ย. ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นบางพื้นที่ในระยะครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นอุณหภูมิลดลงจนมีอากาศเย็นหลายพื้นที่ โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งในวันที่ 18 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนร้อยละ 25 ของพื้นที่ในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นมีฝนร้อยละ 40-75 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนร้อยละ 40-75 ของพื้นที่ กับมีฝนหนักบางแห่ง เว้นแต่ในวันที่ 21 และ 23 พ.ย. มีฝนน้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ